โรคอีสุกอีใส เป็นโรคที่มักพบได้ในช่วงฤดูหนาว พบได้ทุกเพศ วัยและทุกอายุ โดยพบได้ในสถานศึกษา สถานที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก กลุ่มเด็กที่พบมากที่สุด คือ กลุ่มเด็กวัยก่อนเข้าเรียนจนถึงเด็กโต รองลงมา คือ กลุ่มเด็กแรกเกิดและเด็กก่อนวัยเข้าเรียน และกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มเด็กวัยรุ่น โรคนี้ยังส่งผลให้เด็กบางคนมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นมีหลากหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง

โรคอีสุกอีใส โรคติดต่อชนิดหนึ่ง เมื่อเกิดขึ้นแล้ว สามารถหายได้เอง
โรคอีสุกอีใส เป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่ง เมื่อเกิดขึ้นแล้วสามารถหายได้เอง โรคชนิดนี้สามารถติดต่อได้ 2 ทาง คือ ทางการสัมผัสโดยตรงและทางการหายใจ สูดดมละอองฝอยของเสมหะหรือน้ำลาย เมื่อได้รับเชื้อจะมีระยะฟักตัวประมาณสามสัปดาห์ จะมีการแสดงอาการก่อนผื่นตุ่มใสขึ้นประมาณสองวัน เช่น มีไข้สูง ในวัยผู้ใหญ่อาจมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยปกติผื่นตุ่มใสมักจะพบที่บริเวณกลางลำตัวด้านหน้าและด้านหลังเป็นบริเวณแรก บริเวณใบหน้า แขนและขามักพบในบริเวณถัดมา
วิธีการดูแลรักษาและป้องกัน โรคอีสุกอีใส มีวิธีการดังนี้ คือ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนแออัด หนาแน่น เมื่อได้รับเชื้อควรทานยาตามคำแนะนำของแพทย์และเช็ดตัวเมื่อมีไข้ ไม่ควรใช้สบู่ที่มีฤทธิ์เป็นด่างเพราะจะทำให้ผิวแห้ง ถ้ามีแผลในช่องปากควรกลั้วปากด้วยน้ำเกลือ งดทานอาหารรสจัด ดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน ทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ได้แก่ เนื้อ นม ไข่ ถั่วต่างๆ และห้ามแคะ แกะ เกาตุ่มที่คันโดยเด็ดขาด

ในปัจจุบันมีวัคซีนเพื่อป้องกัน โรคอีสุกอีใส โดยแบ่งตามช่วงอายุ ตั้งแต่วัยเด็กแรกเกิดจนกระทั่งวัยผู้ใหญ่สามารถฉีดวัคซีนตามระยะเวลาและตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยในแต่ละช่วงอายุจะได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม ในกรณีบางคนไม่แน่ใจว่าเคยป่วยเป็นโรคนี้หรือไม่ หรือในกรณีบางคนเคยมีอาการป่วยด้วยโรคนี้ซ้ำ ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาต่อไป
สามารถติดตามบทความ แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก โรคเด็ก เรื่องน่ารู้ ได้ที่นี้
แนะนำ ทำความรู้จัก ภาวะตัวเหลือง ในเด็กทารกหลังคลอด ที่พบบ่อย