ถึงจะเป็นลูกเล็กไม่กี่ขวบ แต่ก็ต้องอยู่ในสังคมนอกเหนือจากบ้าน ดังนั้นพ่อแม่ควรฝึก ทักษะการเข้าสังคม เพื่อเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องและมีความสุขแก่เขาต่อไปครับ

ทักษะการเข้าสังคม แบบพื้นฐาน ที่พ่อแม่สามารถปลุกฝังให้ลูกได้
สอนลูกไหว้
เป็น ทักษะการเข้าสังคม อย่างแรกที่พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกไหว้ผู้ใหญ่เป็น ไหว้อย่างสวยงามอ่อนช้อย
ใช้คำพูดที่เหมาะสม
“ครับ” หรือ “ค่ะ” บอกลูกว่าเป็นคำลงท้ายที่น่าฟัง ควรใช้กับทุกคน
“สวัสดีครับ” หรือ “สวัสดีค่ะ” บอกลูกว่าสำหรับทักทายหรือแสดงความเคารพนับถือผู้อื่น
“ขอบคุณครับ” หรือ “ขอบคุณค่ะ” บอกลูกว่าสำหรับแสดงความซึ้งใจในน้ำใจหรือความกรุณาของผู้อื่น
“ขอโทษครับ” หรือ “ขอโทษค่ะ” บอกลูกว่าสำหรับแสดงความรับผิดชอบและแสดงความเสียใจ เมื่อเขารบกวนหรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน
สอนให้รู้จักฟัง
พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่แย่งผู้อื่นพูด ไม่พูดแซง ไม่พูดขัด
สอนให้แบ่งปันเป็น
ทักษะการเข้าสังคม ที่ไม่สอนไม่ได้ก็คือ การสอนให้ลูกรู้จักแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่นในสังคมบ้างตามสมควร โดยอาจเริ่มจากสังคมเล็กๆของเขาก่อน เช่น เพื่อนบ้าน ห้องเรียน จากนั้นค่อยๆ ขยายการแบ่งปันไปสู่สังคมที่ใหญ่ขึ้นครับ
กล้าที่จะเสนอตัว
ควรสอนให้ลูกรู้จักเป็นส่วนหนึ่งของสังคม จะได้ไม่มีปัญหาลูกไม่เข้าสังคม ลูกเข้าสังคมไม่เป็น ด้วยการกล้าแสดงความมีน้ำใจเสนอตัวช่วยเหลือ หรือเป็นธุระให้ผู้อื่นตามสมควร เช่น เสนอตัวช่วยคุณครูถือของ ช่วยเหลือกิจกรรมในโรงเรียน ช่วยเหลือเพื่อนฝูงที่มีปัญหา ช่วยเหลืองานบ้านพ่อแม่
ยึดมั่นในคิว
ทักษะการเข้าสังคม อีกอย่างที่เป็นการสอนลูกให้ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขก็คือ การปลูกฝังให้ลูกรู้จักเข้าคิว ไม่แซงคิวผู้อื่น จะทำให้เขารู้จักการรอคอย มีความอดทนมากขึ้น รู้จักสิทธิ์ของผู้อื่น รู้จักการไม่ละเมิดสิทธิ และรู้จักความเท่าเทียมกันด้วย
ดังนั้นพ่อแม่เองก็ต้องตระหนักในเรื่องการเข้าคิวด้วยเช่นกัน ได้แก่ ไม่ขอผู้อื่นให้ลูกเข้าห้องน้ำก่อน ไม่ขอแทรกคิวผู้อื่นในการจองโดยเอาความเป็นลูกเล็กมาอ้างเหตุผล
สอนให้กล้าขอความช่วยเหลือ
ทักษะการเข้าสังคม อย่างสุดท้ายที่มีความสำคัญในการเอาตัวรอดของลูกก็คือ การสอนลูกว่าเขาไม่สามารถอยู่คนเดียวในโลกนี้ได้ เพราะคนเราทำทุกอย่างเองไม่เป็น แต่ละคนย่อมมีข้อจำกัด มีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไป ดังนั้นทุกคนจำเป็นต้องพึ่งพาผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ

หากลูกต้องการความช่วยเหลือก็สามารถขอความช่วยเหลือได้ถ้าจำเป็น แต่พ่อแม่ต้องย้ำกับเขาว่า หากเขาสามารถจัดการเองได้ก็ควรทำด้วยตัวเองก่อน เพื่อเป็นการพึ่งพาตนเองและไม่รบกวนผู้อื่น
ติดตามบทความ การเลี้ยงลูก แม่และเด็ก พัฒนาการเด็ก โรคเด็ก เรื่องน่ารู้ ได้ที่นี้
แนะนำ เทคนิคสอนลูกให้เชื่อฟัง เรื่องไม่ยาก ที่คุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน สามารถทำได้