ปัญหาของเด็กเล็กอย่างหนึ่ง ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องหนักอกหนักใจอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้ ลูกน้อยกินผักง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องฝืนใจบังคับ อย่างที่รู้กันเด็กเล็กส่วนใหญ่แล้ว จะไม่ชื่นชอบการกินผักมากสักเท่าไรนัก เมื่อไม่กินผัก ก็มีผลต่อระบบการขับถ่าย ลุกลามใหญ่โตกลายเป็นโรคเกี่ยวกับทวารได้ ในบทความนี้ เราก็เลยจะมาแนะนำวิธีการง่าย ๆ ที่จะทำให้เด็ก ๆ ชื่นชอบการกินผัก โดยที่ไม่ต้องบังคับฝืนใจ และเด็ก ๆ จะกลายเป็นคนที่ขาดผักไม่ได้เลย ว่าแต่จะมีวิธีการอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลย 5 วิธีการทำให้ ลูกน้อยกินผักง่าย ๆ ที่พ่อแม่มือใหม่ควรรู้ Latest Posts
Search Results for: กินอาหาร
รักษาโรคท้องผูก ถ่ายยากสำหรับเด็กเล็ก มีวิธีแนะนำที่พ่อแม่ควรต้องรู้
แนะนำวิธี รักษาโรคท้องผูก สำหรับ ถ่ายไม่ค่อยออก เบ่งเข้าแล้วจนแสบตูด หรือที่เราเรียกกันว่าอาการท้องผูก ซึ่งเด็กเล็ก ๆ ก็สามารถเกิดอาการนี้ได้เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ตามปกติแล้วการถ่ายที่ปกติของเด็ก ในสัปดาห์หนึ่งจะต้องถ่ายมากกว่า 3 ครั้ง หากพ่อแม่สังเกตว่า เด็กถ่ายได้น้อยไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ นั้นก็แสดงว่าเด็กเกิดอาการท้องผูกแล้วอย่างแน่นอน แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก สาเหตุส่วนใหญ่จะมาจากการกินอาหาร เด็ก ๆ อาจจะไม่ชอบกินผัก กินแต่อาหารที่มีแต่เนื้อสัตว์ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะว่าเรามีวิธีการรักษาแก้อาการโรคท้องผูกอย่างง่าย ๆ มาฝากคุณพ่อ คุณแม่ได้นำไปใช้กัน 4 วิธีการ รักษาโรคท้องผูก ถ่ายยากสำหรับเด็กเล็ก แบบง่าย ๆ ให้เด็กดื่มน้ำให้มาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว อาการท้องผูกเกิดจากร่างกายนั้น ขาดน้ำที่จะไปเป็นตัวช่วย ย่อยอาหารในลำไส้ ให้เคลื่อนออกมาทางรูทวาร นี้เป็นวิธีการที่ง่ายมาก ๆ และได้ผลอย่างเหลือเชื่อ น้ำจะไปช่วยสลายทำให้อึในลำไส้ของเด็กนั้น ค่อย ๆ คลายตัวและอ่อนลง ลดอาหารที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก สำหรับอาหารที่ส่งผลโดยตรงทำให้เด็กท้องผูก […]
คุณแม่หลังคลอด เรื่องต้องห้ามที่คุณแม่ไม่ควรทำเด็ดขาด
เมื่อ คุณแม่หลังคลอด ต้องออกจากโรงพยาบาลมาอาศัยอยู่ที่บ้าน คุณแม่มือใหม่จะต้องเกิดความกลัว และวิตกกังวลอย่างแน่นอน เมื่ออยู่ห่างไกลจากคุณหมอ กลัวว่าแผลหลังคลอดจะเป็นอย่างไร เอฟเฟคหลังคลอดจะส่งผลกระทบอะไรต่อร่างกายเราไหม ถ้าเกิดขึ้นแล้วจะต้องแก้ไขอย่างไร และมีเรื่องอะไรบ้างที่คุณแม่มือใหม่หลังคลอดไม่ควรทำ แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก วันนี้เราก็เลยได้ทำการรวบรวมข้อห้ามต่าง ๆ ที่คุณแม่มือใหม่หลังคลอด ไม่ควรทำโดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นแล้วอาจจะส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ และชีวิตได้ เราไปดูข้อห้ามเหล่านั้นกันเลย 6 เรื่องต้องห้ามที่ คุณแม่หลังคลอด ควรรู้และห้ามทำเด็ดขาด คุณแม่หลังคลอด ห้ามยกของหนักโดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแผลจากการทำคลอดจะฉีกขาด เมื่อเวลาที่ยกของที่มีน้ำหนักมาก ท้องจะเกร็ง มันจะไปส่งผลกระทบกระเทือนถึงมดลูกซึ่งยังไม่เข้าที่ จะทำให้มดลูกเกิดการหย่อนยาน ใช้ระยะเวลาในการรักษานานขึ้นอีก งดการออกกำลังกายแบบหนัก การออกกำลังกายอย่างหนัก ก็จะมีผลเหมือนกับการยกของหนักเลย การออกกำลังกายบางท่าจำเป็นที่จะต้องมีการเกร็งตรงบริเวณหน้าท้อง มันก็จะไปกระทบต่อบาดแผล และมดลูก หากจำเป็นอยากออกกำลังกาย แนะนำให้เป็นการเดินช้า ๆ จะดีต่อคุณแม่ที่สุด อย่าเครียด หรือวิตกกังวลมากจนเกินไป ถ้าคุณแม่มีอาการที่เครียดจนเกินไป จะส่งผลกระทบทำให้เป็นโรคซึมเศร้าได้ โอกาสมีสูงมากถึง 80 % แต่ถ้ารู้สึกว่าตัวเองมีอาการเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า แนะนำว่าให้รีบพบแพทย์ทันที อย่าปล่อยเอาไว้นาน ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นได้ หากเจ็บแผล ไม่ควรกินยาแก้ปวดด้วยตัวเอง […]
ลูกฟันผุ ไม่ดูแลฟันให้ดี จะทำให้เด็กเป็นโรคแคระแกร็นได้
เมื่อเด็กเล็กเริ่มที่จะมีฟันงอก ลูกฟันผุ คนที่เป็นแม่ก็ควรเตรียมอุปกรณ์ในการแปรงฟันโดยทันที และวิธีการหลอกล่อ พูดคุยให้เขาแปรงฟัน ในช่วงเด็กเล็ก เด็ก ๆ จะขี้กลัว ไม่ชอบการแปรงฟันอย่างมาก จะมีพฤติกรรมวิ่งหนี หรือร้องไห้ เพื่อให้แม่รู้สึกสงสาร แนะนำว่าอย่าใจอ่อนโดยเด็ดขาด เพราะการที่ปล่อยให้ลูกฟันผุเป็นเวลานาน ๆ จะเกิดโรคต่าง ๆ ที่ไม่ใช้เกี่ยวกับฟันตามา โรคที่ว่าเป็นโรคเด็กแคระแกร็น เป็นโรคเกี่ยวกับการเคี้ยวอาหาร Ufoid เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพ่อแม่และเด็ก ฟันจะไม่แข็งแรง และเด็ก ๆ ก็จะไม่อยากแปรงฟันอีกเลย วิธีการรักษา ลูกฟันผุ เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นโรคแคระแกร็น มีดังนี้ การใช้น้ำยาบ้วนปากสำหรับเด็ก ที่มีสารฆ่าเชื้อโรคฟลูออไรด์เป็นส่วนผสมหลัก โดยแพทย์จะเริ่มให้ตั้งแต่เด็ก มีฟันน้ำนมที่ผุ การอุดช่องฟันที่ผุ นี้เป็นวิธีการรักษา ในกรณีที่ฟันเริ่มผุเป็นรูจนเห็นผิวของฟันด้านในแล้ว ทันตแพทย์จะใช้สารที่เรียกว่า พอร์เซเลน ในการอุดรูที่ผุ วิธีการครอบฟัน ในกรณีที่จะครอบฟัน ก็ต่อเมื่อฟันของเด็ก เป็นรูที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ เหลือเนื้อของฟันน้อย ฟันเริ่มที่จะไม่มีประสิทธิภาพในการใช้งาน ทันตแพทย์จำเป็นที่จะต้องใช้สารอย่างพอร์เซเลน และมีการสวมวัสดุทดแทน ป้องกันฟันที่ผุ ให้เด็กสามารถใช้งานฟัน ในการบดเคี้ยวกินอาหารได้อีก รักษารากฟัน นี้คือระยะที่ถือว่าค่อนข้างรุนแรง […]
การเกิดอาการร้อนใน ในเด็ก วิธีช่วยรักษาและป้องกัน
อาการร้อนในเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้ในทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะ การเกิดอาการร้อนใน สำหรับเด็กเล็กหรือเด็กทารกที่ไม่สามารถรักษาด้วยตนเองหรือไม่สามารถที่จะบอกผู้ปกครองได้ ดังนั้นวิธีที่ช่วยป้องกันและรักษาอาการร้อนในที่ผู้ปกครองควรศึกษาเพื่อนำไปสังเกตพฤติกรรมของลูกน้อยของท่าน Ufoid เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพ่อแม่และเด็ก ซึ่งจะมีวิธีการป้องกันและรักษาอย่างไรบ้างมาดูกันได้เลย วิธีช่วยป้องกัน การเกิดอาการร้อนใน ในเด็ก ขอให้ลูกน้อยดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม และไม่ควรดื่มน้ำน้อยจนเกินไป ให้ลูกน้อยรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และเพิ่มในส่วนของวิตามิน B12 ธาตุเหล็กและโฟเลตในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรให้ลูกน้อยกินอาหารที่มีฤทธิ์ร้อนซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการร้อนใน สำหรับเด็กที่แปรงฟันด้วยตนเองผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ควรให้ลูกน้อยของท่านนั้นแปรงฟันแรงจนเกินไปซึ่งจะทำให้เกิดแผลในช่องปากขึ้นได้ วิธีรักษาอาการร้อนในที่เกิดขึ้นในเด็ก คุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่กำลังมองหาวิธีการรักษาอาการร้อนในที่เกิดขึ้นกับลูกน้อยของท่านสามารถนำเอาวิธีที่เราแนะนำไปใช้ได้ทันที โดยมีวิธีการรักษาดังนี้ รักษาโดยการใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่ควรซื้อยาใช้เองอย่างเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายกับลูกน้อยของคุณได้ ให้ลูกน้อยรับประทานอาหารอ่อนและไม่ควรมีรถจัดจนเกินไปซึ่งอาจจะส่งผลต่อแผลร้อนในทำให้หายช้ากว่าปกติ พ่อแม่ควรให้ลูกน้อยรับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุเพื่อป้องกันการเกิดอาการร้อนในในปากซ้ำ หากอาการที่เกิดกับลูกน้อยของท่านไม่หายภายใน 2 สัปดาห์หรือมีแผลที่ใหญ่ขึ้นพ่อแม่ควรพาลูกน้อยของท่านไปพบแพทย์ในทันทีเพื่อทำการรักษาในขั้นตอนต่อไป และนี่คือวิธีป้องกันและรักษาเมื่อเกิดอาการร้อนในกับลูกน้อยของท่านโดยคุณพ่อคุณแม่สามารถศึกษาวิธีที่เราแนะนำนี้ไปใช้ได้เลย ซึ่งรู้กันดีอยู่แล้วว่าอาการร้อนในในปากนั้นจะมีอาการเจ็บบริเวณในปากทำให้รับประทานอาหารได้ยากซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นกับลูกน้อยก็ควรได้รับการรักษายังทันทีและมีการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
สูตรลับเมนูเด็ด อาหารสำหรับลูกน้อย 1 ปีขึ้นไป
พัฒนาการของลูกน้อยถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากสำหรับคุณแม่ทั้งหลาย สูตรลับเมนูเด็ด เพราะคุณแม่ทั้งหลายต้องมีความใส่ใจดูแลลูกน้อยทั้งในเรื่องของสุขภาพ อาหารการกิน ให้ถูกต้องและเหมาะสมตามวัย เพื่อให้พัฒนาการของลูกน้อยของท่านมีพัฒนาการที่ดี ในแต่ละช่วงวัย ดังนั้นอาหารจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการของลูกน้อย ซึ่งวันนี้เราจึงมีสูตรลับเมนูเด็ดของอาหารสำหรับลูกน้อยตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป มาแนะนำให้ท่านได้รู้จัก Ufoid เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพ่อแม่และเด็ก จะมีเมนูอะไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลย สูตรลับเมนูเด็ด อาหารที่เหมาะสำหรับลูกน้อยวัย 1 ปีขึ้นไป การเลือกอาหารให้เหมาะสมกับวัยถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก อาหารที่เหมาะกับเด็กวัยนี้ต้องมีการบดให้ละเอียด รับประทานง่าย เป็นอาหารรสจืด มีสีสันที่สดใส ซึ่งจะมีเมนูอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย สเต็กปลาดอลลี่สำหรับเด็ก นำปลาดอลลี่มาย่างไฟอ่อนๆในกระทะจากนั้นโรยงาขาวและงาดำใส่ไปเล็กน้อย นำผักที่มีสีสันสดใสที่เด็กสามารถรับประทานได้ เช่น ฟักทอง แครอท บล็อกโคลี่ หรือผักอื่นมานึ่งให้นิ่ม จากนั้นทำการจัดจานให้น่ารับประทาน พร้อมทั้งมีการเสริมผลไม้ ไม่ว่าจะเป็น สตอเบอรี่ องุ่น ผลไม้นานาชนิดลงไปในจานเล็กน้อย เพียงเท่านี้ลูกน้อยของท่านก็จะได้รับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ และมีพัฒนาการที่ดีสมวัยอย่างแน่นอน แกงจืดเต้าหู้ตำลึง เมนูนี้เป็นเมนูที่เด็กๆชอบอย่างมาก เพราะเป็นเมนูที่รับประทานง่าย โดยที่ท่านต้องต้มน้ำให้เดือด ใส่หมูสับลงไป จากนั้นเมื่อหมูสุกให้ท่านนำผักตำลึงพร้อมกับเต้าหู้ใส่ลงไปในหม้อ ตั้งไฟไว้สักพักจนกว่าผักจะเปลือย จากนั้นปรุงรสให้มีรสจืด มีรสหวานเล็กน้อย ซึ่งเมนูนี้จะช่วยในการบำรุงสายตาของเด็กได้เป็นอย่างดี ไข่ตุ๋นผักรวมมิตร เมนูนี้จะเป็นเมนูที่เด็กได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างมาก […]
อาการแบบนี้บอกได้เลยคุณแม่มีโอกาสได้ ลูกแฝด!
ลูกแฝด คือการที่คุณแม่ตั้งท้องเด็กสองคนหรือมากกว่าในครรภ์ใบเดียวกัน ซึ่งอาจจะเป็นเด็กที่เกิดจากไข่ใบเดียวกันหรือจะเป็นไข่คนละใบก็ได้เช่นเดียวกัน หากเป็นไข่ใบเดียวกันเด็กที่คลอดออกมามีโอกาสหน้าตาคล้ายกันและเป็นเพศเดียวกัน แต่ถ้าเป็นเด็กแฝดที่เกิดจากไข่คนละใบแต่ละคนจะมีความแตกต่างจากกัน อาจเป็นในเรื่องของหน้า และนิสัย ส่วนสูง และอื่น ๆ เป็นเหมือนกับพี่น้องกันเสียมากกว่านั่นเอง คุณแม่หลายคนที่คิดว่าอยากจะมีลูกแฝดเพราะอยากให้ลูกได้เล่นด้วยกันจะได้ไม่เหงาคงอยากจะเช็คกันดูแล้วว่าตัวเองคลอดลูกแฝดหรือไม่ มาดูกันดีกว่าว่าหากคุณแม่ท้อง ลูกแฝด จะมีอาการอย่างไรบ้าง อาการแบบนี้บอกได้เลยคุณแม่มีโอกาสได้ ลูกแฝด อาการแบบนี้บอกได้เลยคุณแม่มีโอกาสได้ ลูกแฝด การท้องลูกแฝดเป็นเรื่องที่หลายคนนับว่าโชคดีเพราะเด็ก ๆ จะได้มีเพื่อน แต่สำหรับบางคนที่ไม่ค่อยพร้อมเรื่องของค่าใช้จ่ายเท่าไหร่อาจจะเป็นปัญหาได้เช่นกัน เพราะการเลี้ยงลูกพร้อมกันสองคนต้องมีคนเลี้ยงดูพอ ทั้งยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการเลี่ยงดูอีกด้วย ทีนี้คนที่ท้อง ลูกแฝด จะมีอาการอะไรบ้างที่บ่งบอกให้คุณแม่และคนรอบข้างรู้ อันดับแรกเลยคือทุกอย่างจะเป็นสองเท่าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นปริมาณในการกินอาหารที่มากขึ้น ท้องที่ใหญ่ขึ้นกว่าท้องปกติ การแพ้ท้องที่รุนแรงมากกว่าบอกเลยว่าคุณแม่ที่ท้องเด็กแฝดคือคุณแม่ที่ทรงพลังที่แท้จริงเพราะต้องรับมือกับเด็กสองคนพร้อมกัน นอกจากนี้ในขณะที่ลูกเริ่มดิ้นหรือเตะท้องแล้วจะหนักคูณสองด้วยเช่นกัน คุณแม่จะรู้สึกได้เลยว่าเด็กถีบท้องถี่กว่าปกติเพราะเป็นการถีบจากเด็กสองคนนั่นเอง ทั้งนี้หัวใจของคุณแม่จะเต้นเร็วอีกด้วย เพราะต้องรองรับเด็กสองคนเอาไว้ อย่างที่บอกไปว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นสองเท่าดังนั้นคุณแม่ก็ต้องเตรียมพร้อมเป็นสองเท่าด้วยเช่นกันนั่นเอง อาการแบบนี้บอกได้เลยคุณแม่มีโอกาสได้ ลูกแฝด อีกสิ้งที่รู้ได้เลยคือน้ำหนักขึ้นเร็วมากด้วยจังหวะในช่วงที่เด็กเริ่มจะอยู่ในช่วงใกล้คลอดที่จะโตขึ้นมาอย่างมากนั้นยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่าคุณแม่ตัวใหญ่ขึ้นมากนั่นเอง ดังนั้นหากรู้สึกถึงอาการเหล่านี้ก็สามารถรับรู้ได้เลยว่ามีเด็กในท้องสองคนนั่นเอง อย่างไรก็ตามสมัยนี้สามารถอัลตร้าซาวด์ได้ คนที่สงสัยสามารถลองนัดคุณหมอตรวจเช็ดได้เลย แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก การดดูแลบุตร เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเด็ก
หลังผ่าคลอด คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้าง?
คุณแม่ หลังผ่าคลอด มักจะมีอาการหรือต้องการการรักษาตัวที่มากกว่าการคลอดตามธรรมชาติ ดังนั้นคุณแม่ที่ผ่าคลอดควรดูแลตัวเองทั้งในเรื่องอาหารการกิน การพักผ่อน ไปจนถึงการรักษาแผลผ่าคลอดของตัวเองอีกด้วย มาดูกันว่าคุณแม่หลังผ่าคลอดจะมีวิธีรักษาและดูแลตัวเองให้ฟื้นกลับมาแข็งแรงอีกครั้งได้อย่างไรบ้าง หลังผ่าคลอดคุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้าง? นอนตะแคง – หลังผ่าคลอด คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้าง เนื่องจากหลังจากที่ผ่าคลอดคุณแม่จะมีแผลผ่าตัดอยู่ที่หน้าท้อง และการนอนตะแคงจะทำให้แผลไม่ตึงเกินไปทำให้ไม่ค่อยเจ็บและแผลสมานได้เร็วขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้คุณแม่ควรนอนหมอนสูงจนกว่าแผลจะปิดสนิทเพื่อให้ท้องไม่ตึงมากเกินไปอีกด้วย เน้นกินโปรตีนให้มากขึ้น – หลังผ่าคลอดคุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้าง ด้วยความที่ร่างกายต้องการการรักษาที่มากขึ้น การรับประทานอาหารประเภทโปรตีนจะช่วยให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้น ร่างกายมีเนื้อหรือโปรตีนเพียงพอให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่เสียหายไปได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ในโปรตีนยังมีความจำเป็นต่อการเพิ่มพลังให้ร่างกายอีกด้วย เหมาะกับผู้ที่ต้องพักฟื้นร่างกายอย่างมากเลยล่ะ ไม่กินอาหารที่ไม่สุก – หลังผ่าคลอด คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้าง ด้วยความที่ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดจะค่อนข้างอ่อนแอและสามารถติดเชื้อได้ง่าย จึงมีควรรับประทานอาหารที่สุก ๆ ดิบ ๆ ที่อาจที่เชื้อโรคปนเปื้อนอยู่นั่นเองนอกจากนี้ยังควรงดแอลกอฮอล์อีกด้วย เรียกว่าไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนช่วงหลังพักฟื้นร่างกายหลังคลอดจนกว่าร่างกายจะกลับมาแข็งแรงนั่นเอง ดื่มน้ำให้มาก – หลังผ่าคลอด คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้าง เป็นเรื่องปกติที่ร่างกายของเราต้องการน้ำที่เพียงพอในแต่ละวัน และคุณแม่หลังคลอดก็ต้องการน้ำที่มากกว่าแปดแก้วต่อวันเพื่อฟื้นฟูร่างกายอีกด้วย นอกจากนี้ควรดื่มน้ำอุ่นมากกว่าน้ำเย็นเพราะจะทำให้ร่างกายรู้สึกสบายผ่อนคลายได้อีกด้วย อยู่ไฟหลังจากแผลปิด (ประมาณ 45 วัน) – หลังผ่าคลอด คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้าง คุณแม่หลังคลอดทุกคนควรจะอยู่ไปจนกว่าร่างกายจะกลับมาแข็งแรงทั้งนั้น แต่คุณแม่ หลังผ่าคลอด ควรที่จะรักษาแผลให้หายเสียก่อนที่จะอยู่ไฟเพราะแผลอาจเปิดได้และยังมีโอกาสติดเชื้ออีกนั่นเอง หลังผ่าคลอด คุณแม่สามารถดูแลตัวเองได้อย่างไรบ้าง? นอกจากนี้คุณแม่หลังคลอดควรพักผ่อนให้มาก […]
ลูกไม่ยอมกินข้าว ลูกกินข้าวน้อย พ่อแม่ควรทำอย่างไร
ปัญหาที่มักมาทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านเป็นกังวลกับเรื่อง ลูกไม่ยอมกินข้าว เพราะเด็กย่อมคู่กับอาหารแต่มีเด็กเล็กหลายคนที่ไม่ยอมกินข้าวหรือกินข้าวน้อย ทำให้พ่อแม่กลุ้มใจ กลัวลูกจะไม่โตหรือไม่แข็งแรง วันนี้เราจะมาช่วยพ่อแม่แก้ปัญหาโลกแตกนี้ค่ะ แก้ปัญหา ลูกไม่ยอมกินข้าว ลูกกินข้าวน้อย ให้เขาอร่อยกับการกินข้าวมากขึ้น สังเกตว่าลูกกินอาหารลักษณะใดได้มาก เพราะความชอบของเด็กแต่ละคนต่างกัน เช่น บางคนชอบกินอาหารนุ่มเละ แข็ง กรอบ เหนียว มีน้ำ แห้งๆ หาก การเลี้ยงลูก ที่เป็นเด็กเล็กมากๆ พ่อแม่ควรจับนั่งเก้าอี้สำหรับเด็กหรือ high chair ลูกจะได้นั่งกินอยู่กับที่ กำหนดเวลาอาหารแต่ละมื้อให้ลูกกินตรงเวลา อย่าปล่อยให้เขากำหนดเองตามใจชอบ ลดมื้อว่างอย่างขนมหวานและน้ำหวาน เพราะน้ำตาลทำให้อิ่มจนลูกไม่ยอมกินข้าว หากถามแล้วลูกไม่ตอบว่าอยากกินอะไร พ่อแม่ควรเปลี่ยนเมนูไปเรื่อยๆ ความแปลกใหม่จะกระตุ้นความอยากอาหารได้ เลือกภาชนะและเมนูที่มีสีสันและรูปร่างดึงดูด แก้ปัญหาลูกกินข้าวน้อย ตักอาหาร 2 – 3 ช้อนให้ลูกก่อน หากพ่อแม่ตักอาหารมากเกินไปลูกที่กินน้อยจะพะอืดพะอมและท้อแท้ บางมื้ออาจชวนเพื่อนลูกมากินข้าวด้วย จะสังเกตว่าลูกมีความสุขและกินข้าวมากขึ้น กำหนดเวลากินข้าวให้ลูก เช่น 20 นาที, 30 นาที (พ่อแม่ควรกินข้าวรอลูกด้วย) หากลูกยังกินไม่อิ่มในเวลาที่กำหนดก็ไม่ต้องกังวล ให้เก็บจานได้เลย ลูกจะเรียนรู้ว่าการกินข้าวครั้งต่อไปเขาควรใส่ใจให้มากขึ้น และข้าวมีคุณค่ามากกว่าทุกครั้ง สร้างบรรยากาศการกินให้มีความสุข ไม่ว่ากล่าวลูกหรือพูดเรื่องเครียดๆ […]
แม่เครียดขณะตั้งครรภ์ ส่งผลกระทบต่อลูกในท้อง มากน้อยแค่ไหน?
แม้ความเครียดจะเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนสามารถมีได้และอาจเกิดขึ้นโดยที่ไม่ตั้งตัวจนบางครั้งก็ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำว่ากำลังเครียดอยู่ ความเครียดที่เกิดขึ้นเป็นปกตินี้จะเป็นเรื่องที่อันตรายขึ้นมาทันทีหาก แม่เครียดขณะตั้งครรภ์ ส่งผลต่อลูกในท้องมากน้อยแค่ไหน ทำไมถึงไม่ควรเครียดขณะตั้งครรภ์? ผลกระทบที่เกิดจาก แม่เครียดขณะตั้งครรภ์ แม่เครียดขณะตั้งครรภ์ ส่งผลต่อลูกในท้องมากน้อยแค่ไหน ทำไมถึงไม่ควรเครียดขณะตั้งครรภ์? จริง ๆ แล้วทุกคนทราบดีว่าความเครียดเป็นสิ่งที่อันตรายต่อร่างกายและจิตใจของคนเราอย่างมากเลยล่ะ จริงอยู่ที่ว่าความเครียดในระดับที่พอเหมาะจะทำให้สมองของเราสามารถคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น แต่นั่นก็ต้องอยู่ในระดับความกดดันที่รู้สึกว่าไม่มากจนเกินไป แต่เมื่อความกดดันเหล่านั้นมีมากขึ้น และกลายเป็นความเครียดที่เริ่มสะสมขึ้นมาจะส่งผลต่อร่างกายมากกว่าที่คาดคิดเอาไว้เลยล่ะ ซึ่งอาการของความเครียดก็เช่น การนอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ปวดหัว ไม่รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ต้องการของหวานเพื่อลดความเครียด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมากเลยล่ะ แน่นอนว่าในคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในท้องหากเกิดความเครียดแล้วพักผ่อนน้อยก็จะยิ่งส่งผลต่อความสมบูรณ์และความแข็งแรงของลูกในท้องได้ด้วย นอกจากนี้ความรู้สึกของแม่จะถูกส่งไปยังลูกน้อยได้โดยตรง นั่นหมายความว่าในขณะที่แม่มีความเครียดลูกก็จะเป็นเด็กที่มีความเครียดไปด้วยนั่นเอง ซึ่งไปเป็นผลดีต่อพัฒนาการของลูกน้อยเมื่อเติบโตขึ้นมา ดังนั้นนอกเหนือจากการดูและร่างกายแล้วคุณแม่ต้องดูแลจิตใจของตัวเองด้วย แม่เครียดขณะตั้งครรภ์ ส่งผลต่อลูกในท้องมากน้อยแค่ไหน ทำไมถึงไม่ควรเครียดขณะตั้งครรภ์? ซึ่งการดูแลจิตใจของตัวคุณแม่นั้นเป็นเรื่องที่ทำได้หากได้รับการช่วยเหลือจากคุณพ่อ เพราะมีหญิงตั้งครรภ์หลายคนจะเกิดอาการอารมณ์แปรปรวนจากฮอร์โมน รู้สึกขี้น้อยใจ ขี้โมโหมากขึ้น ซึ่งหลายคนที่รับมือไม่ถูกจะมีอาการเครียดได้ ยิ่งถ้าคู่ครองบางคนที่ไม่เข้าใจและกลายเป็นทะเลาะกันขึ้นมาอีกก็จะกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นและส่งผลต่อจิตใจของทั้งสองฝ่าย แน่นอนว่าลูกก็จะรับรู้ความรู้สึกเหล่านั้นได้ด้วยนั่นเอง วิธีที่ดีที่สุดคือการได้รับความร่วมมือจากตัวคุณแม่เองและตัวสามีในการลดความเครียดที่อาจเกิดขึ้นมาระหว่างที่ตั้งครรภ์อยู่ อาจปรับฮอร์โมนด้วยการออกกำลังกาย หรือทานน้ำมากขึ้น นอนให้เยอะขึ้น กินอาหารให้ครบห้าหมู่ก็ช่วยได้มากเลยล่ะ การออกไปเดินเล่นสูดอากาศที่บริสุทธิ์ก็ช่วยอาการของแม่เครียดขณะตั้งครรภ์ ได้ด้วยเช่นกัน เว็บไซต์ให้ควารู้เกี่ยวกับ การเลี้ยงลูก ufoid ที่นี่มีทุกๆเรื่องราว ให้ทุกคนได้ติดตาม อย่างมากมาย และในวันนี้สิ่งที่ลืมไม่ได้เลย ufoid ต้องขอขอบคุณ tiger711 สำหรับบทความ แม่และเด็ก ที่สนับสนุนให้กับเว็บไซต์เราด้วยค่ะ […]