น้ำนมจากแม่ นับว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับลูกน้อยวัยแรกเกิดจนถึง 3 ขวบ ในปัจจุบันจากสถิติพบว่ามีคุณแม่หลายคนหันมาให้ลูกดื่มนมแม่แทนนมกระป๋อง แต่อีกปัญหาหนึ่งที่ตามมาก็คือ “ลูกแพ้นมแม่” หรือเกิดอาการแพ้สารอาหารในนมแม่ ซึ่งแน่นอนว่ามีคุณแม่ไม่น้อยเลยที่พบเจอปัญหาเหล่านี้จนทำให้ลูกต้องไปดื่มนมกระป๋อง โดยเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าการดื่มนมแม่นั้นดีที่สุด สำหรับวันนี้เราจึงอยากพาคุณแม่มือใหม่มาเช็คกันให้ชัวร์ว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นลูกแพ้นมแม่หรือลูกแพ้สารอาหารที่อยู่ในนมของแม่กันแน่ ซึ่งเราได้รวบรวมเอาสาเหตุรวมถึงข้อมูลการแพ้นมแม่ และวิธีการแก้ปัญหาหรือป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ครอบครัวไหนที่มีปัญหาเหล่านี้มาติดตามรับชมไปได้พร้อมๆกันเลยค่ะ สาเหตุที่ “ลูกแพ้นมแม่” หรือ แพ้สารอาหารในนมแม่ เกิดจากอะไร เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับปัญหา “ลูกแพ้นมแม่” หรือปัญหาแพ้สารอาหารในนมแม่ โดยภาวะแพ้นมแม่ จะเกิดขึ้นกับลูกน้อยวัยแรกเกิด โดยมีอาการผื่นแดงบนใบหน้า รวมถึงบริเวณต่างๆ ในบางคนอาจทั่วร่างกาย จนเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ หรือในกรณีที่ลูกแพ้สารอาหารในนมแม่ ก็จะมีอาการผื่นแดงตามลำตัวเช่นเดียวกัน แต่อาการที่สามารถสังเกตได้ก็คือลูกจะร้องไห้และไม่อยาก ดื่มนมแม่ รวมถึงน้ำหนักตัวน้อย โดยทั้ง 2 สาเหตุนี้เกิดจาก น้ำนมของแม่อาจมีสารบางอย่างปนเปื้อนจึงทำให้ลูกน้อยที่ผิวบอบบางมีอาการผื่นแดงหรือเกิดผื่นขึ้นตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นยาที่คุณแม่ได้รับประทานเข้าไป อาหารทะเล นมวัว เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถไปกระตุ้นต่อมน้ำนมและส่งผลให้ลูกที่ดื่มนมเกิดอาการแพ้ขึ้นได้ ดังนั้น หากคุณแม่ทราบว่าลูกมีอาการเหล่านี้ควรสังเกตอาการของลูกและรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวชศาสตร์ แม่และเด็ก เพื่อหาสาเหตุการแพ้ที่แท้จริง หรือ ทราบสารอาหารที่เป็นตัวกระตุ้นอาการแพ้น้ำนมของลูก เพื่อให้คุณแม่ได้ทราบและสามารถระวังหรือหลีกเลี่ยงสารอาหารเหล่านั้นได้ เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับความรู้เพื่อป้องกันปัญหา“ลูกแพ้นมแม่”หรือแพ้สารอาหารในนมแม่ให้กับลูกน้อยของคุณได้ได้ปลอดภัยและห่างไกลจากปัญหาสุขภาพจากการดื่มนมแม่ ดังนั้น หากคุณแม่มั่นใจว่าลูกของคุณมีอาการเหล่านี้ ก็สามารถสังเกตอาการและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำ และแนวทางการแก้ไขที่ถูกวิธีอย่างเร่งด่วน […]
Author: admin
“ลูกกัดเล็บ” สาเหตุของพฤติกรรมเหล่านี้เกิดจากอะไรคุณแม่ควรรู้
การดูแลเลี้ยงดูลูกในปัจจุบัน ทุกขั้นตอนเหมือนเป็นการศึกษาให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หรือครอบครัว เพราะในปัจจุบันเด็กๆมักมีพฤติกรรมให้คุณพ่อคุณแม่ได้สงสัยอยู่บ่อยครั้ง เช่นเดียวกับพฤติกรรมที่ “ลูกกัดเล็บ” ก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่หลายคนยังหาคำตอบไม่ได้ โดยตัวของคุณพ่อคุณแม่เองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมลูกถึงมีพฤติกรรมเหล่านี้ โดยพฤติกรรมนี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงเด็กโต ดังนั้นหากปล่อยให้ลูกของคุณมีอาการเหล่านี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีและเรื่องปกติ สำหรับวันนี้เราจึงอยากพาคุณพ่อคุณแม่ไปรู้จักกับพฤติกรรมการกัดเล็บที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุของการแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ หรือผลเสียต่อสุขภาพหากลูกทำพฤติกรรมแบบนี้ต่อไปในอนาคต ซึ่งมีบทความน่าสนใจอย่างไรมาติดตามกันเลยค่ะ พฤติกรรม “ลูกกัดเล็บ” อาจเป็นเรื่องผิดปกติ ส่งผลเสียต่อบุคลิกและสุขภาพ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวพฤติกรรมที่น่าสนใจเป็นอย่างมากของวัยเด็กอย่างพฤติกรรม “ลูกกัดเล็บ” บางครั้งตัวคุณพ่อคุณแม่เองก็อาจสงสัยว่าลูกแสดงอาการแบบนี้เพราะอะไร การกัดเล็บ ถือเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกเพศทุกวัย จากการวิจัยได้ระบุไว้ว่าเป็นพฤติกรรมเคยชิน หากทำบ่อยๆอาจเกิดเป็นอาการเจ็บตัวได้ สำหรับสาเหตุอาจมาจากการที่เด็กมีความรู้สึกวิตกกังวล กดดัน มีความเครียด จึงทำให้เด็กแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ออกมาได้ ซึ่งถ้าหากลูกของคุณมีอาการเหล่านี้และทำต่อเนื่องกันทุกวันจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ฟัน อาจทำให้ฟันห่างไม่สวย และ เล็บ ที่อาจเกิด อาการบาดเจ็บ ได้จากการกัดทำให้สามารถรับเชื้อโรคเข้าไปสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ในส่วนของด้านบุคลิกภาพ อาจทำให้ลูกของคุณเกิดความไม่มั่นใจและความวิตกกังวล ไม่อยากเข้าสังคม หรืออาจทำให้เด็กในวัยเดียวกันรู้สึกหวาดกลัว และเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติก็เป็นได้ แม่และเด็ก ดังนั้น หากคุณพบว่า“ลูกกัดเล็บ”หรือมีพฤติกรรมดังกล่าวที่เราได้กล่าวไปข้างต้น เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงพฤติกรรมเหล่านี้ และเข้าใจถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นจนทำให้ลูกของคุณแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ออกมาไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือการออกไปทำกิจกรรมต่างๆภายนอกบ้าน คุณควรจะหาวิธีหรือป้องกันไม่ให้ลูกของคุณแสดงพฤติกรรมเหล่านั้นจนเคยชิน เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้วยังส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก คุณสามารถเปลี่ยนความสนใจของลูกคุณเป็นการร่วมทำกิจกรรมต่างๆเพื่อให้ลูกของคุณรู้สึกไว้ใจ ผ่อนคลาย เพลิดเพลินไปกับกิจกรรม และหมดความกังวลจนทำให้ไม่อยากแสดงพฤติกรรมการกัดเล็บอีก aesexyc […]
“โรคภูมิแพ้” รู้หรือไม่ โยเกิร์ตสามารถป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากโรคได้
ก้าวเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว หรือเป็นฤดูที่คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวลไม่น้อยเกี่ยวกับสุขภาพของลูก ไม่ว่าจะเป็นโรคไข้หวัด โรคฉี่หนู หรือ “โรคภูมิแพ้” ที่ต้องประสบพบเจอบ่อยๆในทุกฤดูฝนหรือฤดูหนาว ซึ่งเด็กบางคนอาจจะมีอาการภูมิแพ้รุนแรงจนทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวลใจเป็นอย่างมาก ล่าสุดได้มีงานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นได้มีการออกมาเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการว่า การรับประทานโยเกิร์ตวันละ 1 แก้ว หรืออาทิตย์ละ 3-4 แก้ว พร้อมกับงาดำหรือธัญพืชก็จะสามารถป้องกันโรคภูมิแพ้ในวัยเด็กได้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งงานวิจัยที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับคุณแม่และเด็ก ซึ่งวันนี้เราจะพาชาวบล็อกแม่และเด็ก ไปพบกับความมหัศจรรย์ของการรับประทานโยเกิร์ตเพื่อป้องกันโรคเหล่านี้ไปพร้อมๆกันเลยค่ะ การรับประทานโยเกิร์ตสามารถป้องกัน “โรคภูมิแพ้” อาจเป็นเรื่องที่คุณแม่หลายคนยังไม่รู้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์คุณแม่หลายบ้านเป็นอย่างมาก สำหรับการรับประทานโยเกิร์ตพร้อมกับงานหรือธัญพืชเพื่อป้องกัน “โรคภูมิแพ้” โดยงานวิจัยนี้ได้ถูกค้นพบและนำไปใช้เป็นที่รู้จักกันอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น ในฤดูฝนนั้นจะทำให้เด็กมีปัญหาสุขภาพอันดับ 1 คือโรคภูมิแพ้หรือ โรคไข้หวัด เพราะละอองฝนอาจนำพาจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียก่อโรคมาสู่ทางเดินหายใจของลูกน้อยได้ นอกจากจะทำให้ลูกน้อยมีอาการไข้หวัด หรือ รู้สึกรำคาญกับอาการป่วยนี้ ยังทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้ ดังนั้นการส่งเสริมให้ลูกรับประทานโยเกิร์ตคู่กับเมล็ดธัญพืชหรืองา ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจที่สามารถป้องกันอาการเจ็บป่วยเหล่านี้ได้ เพราะโยเกิร์ตเป็นอาหารที่มีจุลินทรีย์และมีแบคทีเรียดีจะสามารถช่วยปรับความสมดุลอวัยวะภายในร่างกายอย่างเช่นลำไส้ ให้มีการทำงานสมดุลมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังสามารถยับยั้งสารก่อภูมิแพ้ต่างๆได้ ซึ่งงานวิจัยนี้ก็ได้ถูกตีพิมพ์และได้รับการยืนยันว่าเป็นงานวิจัยสำหรับแม่และเด็กเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีคุณแม่หลายคนมักเลือกใช้วิธีนี้กันอีกด้วย แม่และเด็ก เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับความรู้ใหม่การรับประทานโยเกิร์ตพร้อมกับงาบด หรือ ธัญพืช สามารถป้องกัน“โรคภูมิแพ้”ให้ให้กับลูกน้อยของคุณได้ ดังนั้น การรับประทานโยเกิร์ตจึงถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะสามารถป้องกันโรคเหล่านี้แล้ว โยเกิร์ตยังมีวัตถุดิบและส่วนผสมที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากช่วยทำให้ลำไส้มีการทำงานที่สมดุล และช่วยปรับสภาพร่างกายให้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะเหตุนี้การรับประทานโยเกิร์ตเพื่อป้องกันโรคนี้จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ […]
จิตเวชเด็ก 3 ข้อสังเกตของลูกที่คุณแม่ควรพาไปพบเพื่อรับคำแนะนำ
ในปัจจุบันการดูแลเอาใจใส่รวมถึงการให้ความรักความเมตตาจากพ่อแม่และครอบครัวถือเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกันกับการสังเกตพฤติกรรมของลูกด้านอารมณ์ ควรพาลูกไปพบ จิตเวชเด็ก หากลูกของคุณมีอาการเหล่านี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติไม่ว่าจะเป็นในด้านของอารมณ์หรือพัฒนาการของเด็ก ซึ่งหากปล่อยไว้ก็อาจจะเกิดความรุนแรงในอนาคตก็เป็นได้ ดังนั้น หากพ่อคุณแม่ครอบครัวไหนที่กำลังพบกับปัญหาเหล่านี้ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 7-15 ปี คุณสามารถเข้ามาตรวจสอบว่าลูกของคุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่ และหากเกิดขึ้นจริงคุณควรจะทำอย่างไรต่อไป มาติดตามรับชม 3 ข้อสังเกตหลักๆเกี่ยวกับสัญญาณเตือนไปพร้อมๆกันเลยค่ะ เช็คด่วน ! หากลูกมีพฤติกรรมเหล่านี้อาจต้องพึ่ง จิตเวชเด็ก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณผู้ปกครองต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมากในวัยของ เด็กเล็ก ที่กำลังจะเติบโตก้าวสู่รั้วโรงเรียนดังนั้นมาเช็คลูกพร้อมกับบทความ แม่และเด็ก กันเลยว่าลูกของคุณมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงที่อาจต้องพึ่ง จิตเวชเด็ก เพื่อการช่วยเหลือทางด้านอารมณ์ 3 สัญญาณเตือนดังนี้ เป็นปกติที่เด็กเล็กจะมีอาการซุกซน และอารมณ์ดีเมื่อได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่ถ้าหากลูกของคุณมีการที่ซุกซนผิดปกติเช่น อยู่ไม่นิ่ง ไม่มีสมาธิ มักเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา นี่อาจเป็นอาการเริ่มต้นทางจิตเวชที่คุณไม่เคยละเลยเป็นอย่างยิ่ง อาการวิตกกังวลไม่ควรเกิดขึ้นกับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 7-15 ปี เพราะเด็กๆเหล่านี้ควรจะมีความร่าเริงและมีพฤติกรรมที่สมวัย ดังนั้น หากลูกของคุณมีอาการวิตกกังวลเช่นไม่อยากไปโรงเรียน หรือไม่อยากทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น คุณควรหาสาเหตุและพูดคุยกับลูกด้วยวิธีที่นุ่มนวล เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้ ในเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 7-15 ปีอาจมีความก้าวร้าวอยู่บ้างในเวลาที่ตนไม่พอใจ หรือต้องการสิ่งของ แต่ถ้าหากลูกของคุณมีความก้าวร้าวตั้งแต่ ดื้อ ตะโกนเสียงดังใส่ผู้ปกครอง กรี๊ด ไม่เชื่อฟัง […]
ลูกกินผักได้ง่าย บอกเลยว่าเหมาะสมมากกับบ้านที่ลูกไม่ชอบกินผัก
ลูกบ้านไหนกินผักยากมากบ้าง บอกเลยว่าเป็นอีกปัญกาที่พบได้บ่อยมาก ๆ ไม่อยากให้เครียดเพราะว่าเราสามารถฝึกกันได้ด้วย มีเทคนิคมากมายที่จะสามารถช่วยพ่อแม่มือใหม่ ทำให้ลูกสามารถทานผักได้ เพื่อสุขภาพที่ดีและเพื่อประโยชน์ในการที่จะได้รับสารอาหารกลับไปอย่างครบถ้วน วันนี้จะมาแนะนำการให้ ลูกกินผักได้ง่าย บอกเลยว่ามีความเหมาะสมมาก ๆ กับบ้านที่ลูกไม่ชอบกินผัก เริ่มไปด้วยกันนะเพื่อน ๆ เพราะว่าเป็นปัญหาที่มันสามารถแก้ไขได้หากว่าลูกยอมเปิดใจให้กับการทานผักก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ แนะนำแนวทางที่เราจะสามารถทำให้ ลูกกินผักได้ง่าย มากขึ้น ห้ามมองข้าม เทคนิคการทำให้ ลูกกินผักได้ง่าย ข้อแรกที่เราจะมาแนะนำ พยายามที่จะฝึกตั้งแต่เด็กเพราะว่าสิ่งนี้จะสามารถช่วยเราได้ พยายามที่จะให้ลูกของเรามีความคุ้นเคยกับผักแต่ละชนิด บอกเลยว่ามันจะสามารถช่วยให้เราวางพื้นฐานการชอบ กินผัก ให้กับลูกของเราได้ อาจจะเริ่มจากผักชนิดที่มีกลิ่นไม่แรงก่อนนะเพื่อน ๆ จะสามารถช่วยได้เลย มีความคุ้นเคยแต่เด็ก ๆ ก็จะดีมาก แม่และเด็ก เทคนิคที่จะช่วยส่งเสริมให่ลูกทานผักส่วนต่อมาคือ เป็นการที่ให้พ่อแม่นั้น ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ตัวอย่างที่ดีก็เกิดจากสิ่งรอบตัวที่ลูกได้เห็นเป็นประจำ การกินผักเป็นประจำมันก็ดีต่อสุขภาพของพ่อแม่และลูกเองด้วย หากเราไม่กินผักแต่จะไปปลูกฝังให้ลูกอยาก ที่จะกินมันก็จะเป็นเรื่องยากเพราะฉะนั้นพ่อแม่ก็ถือว่า เป็นสุขภาพที่ดีแล้วก็พยายามกินผักอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน ทำให้ดูเป็นตัวอย่างว่าการกินผักมันดีต่อสุขภาพอย่างไร พยายามบอกว่าผักชนิดนี้มีคุณประโยชน์อะไรบ้าง ค่อยๆทำการปลูกฝัง เทคนิคในการช่วยลูกกินผักได้ง่ายเทคนิคสุดท้าย ก็คือไม่บังคับ ค่อยๆพยายามทำให้ลูกรู้สึกว่ามัน สิ่งที่ดีต่อสุขภาพเราก็พยายามให้ประสบการณ์ การเปิดใจกินผักมันไม่ใช่เรื่องยากแต่ว่าเราต้องค่อยๆทำการทำความเข้าใจไปเรื่อยๆ อาจจะต้องเริ่มจากสิ่งที่มันง่าย ufawallet […]
สมาธิในลูก สามารถปลูกฝังลูกอย่างไรให้เป็นคนที่มีสมาธิมากขึ้น
เรื่องของ สมาธิในลูก เป็นเรื่องที่ผู้ปกครองสามารถปลูกฝังได้เลย แต่ละคนก็มีพัฒนาการที่แตกต่างต่างกันมาก ๆ อยู่ที่ว่าได้รับการปลูกฝังและได้รับการเลี้ยงดูมาแบบไหน ซึ่งเรามองว่าพ่อแม่ยุคใหม่ก็ควรที่จะปลูกฝังลูก ๆ ให้มีความมีสมาธิและทำให้จิตใจดี มีความสดใส สมองมีความปลอดโปร่ง วันนี้เราจะมาแชร์การเลี้ยงลูกเราจะสามารถปลูกฝังลูกอย่างไรให้เป็นคนที่มีสมาธิมากขึ้น บอกเลยว่าเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะสำคัญ เริ่มดูไปด้วยกันว่าเรามีวิธีในการเลี้ยงลูกแบบไหน จะสามารถช่วยเราได้บ้าง แชร์ประสบการณ์การ สมาธิในลูก ให้เป็นคนที่มีสมาธิมากขึ้น ห้ามมองข้าม แชร์ในเรื่องของ สมาธิในลูก ให้เป็นคนที่มี สมาธิ พยายามเลือก กิจกรรมที่จะสามารถส่งเสริมในเรื่องนี้ได้ ก็เป็นอีกเราได้มีความสำคัญมากๆ อย่างเช่นกิจกรรมยามว่างอย่างการ ภาพจับคู่ กิจกรรมที่มันต้องอาศัย ความจำ ว่าลองของการสังเกตการณ์ต่างๆซึ่งเหล่านี้จะสามารถช่วยพัฒนาการเรื่องของระบบต่างๆในสมอง และทำให้เรามีความสุขกันมากยิ่งขึ้น โฟกัสในสิ่งที่ควรจะทำ ที่เสริมสร้างสมาธิให้ลูกได้ดีมากๆ แม่และเด็ก การเลี้ยงลูกให้มีสมาธิ ส่วนต่อมาก็คือ พยายามที่จะส่งเสริมในเรื่องของอาหารการกิน สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากๆเมื่อได้ทำการเล่น และได้ทำการรับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ส่งสำหรับเรื่องของระบบการทำงานของประสาทและสมอง ช่วยในเรื่องของสติและสมาธิได้ดีมากๆ สำหรับพ่อแม่มือใหม่ทุกวันนี้มันมีวิธีการเลือกอาหารที่ดีและตอบโจทย์ในเรื่องของระบบการทำงานพวกนี้อยู่แล้ว สมาธิในลูกส่วนสุดท้ายที่จะมาแชร์ก็คือ พยายามทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆตลอดเวลา บางทีมันอาจจะถามให้ ไม่คิดและได้สังเกตอะไรเพิ่มขึ้น จากที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหรือว่าอะไรที่มันยาก พยายามค่อยๆคิดค่อยๆทำ หากิจกรรมที่ทำด้วยกันได้ จะได้ส่งเสริมเรื่องของความสัมพันธ์ในครอบครัวได้วยนะ พ่อแม่มื่อใหม่พัฒนาได้ Latest […]
ลูกน้อยนอนหลับได้ยาวนาน เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคเตี้ย มีวิธีการอะไรบ้าง
รู้หรือไม่ว่า การที่ลูกของเรานั้นนอนหลับได้น้อย มันส่งผลต่อสุขภาพร่างกายอย่างมาก จะทำให้พัฒนาการทางร่างกายของเด็ก มีปัญหาเป็นโรคเตี้ยได้ ซึ่งปัญหานี้จะพบได้บ่อยอย่างมาก เพราะช่วงเวลาที่เด็กนอนนั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่ร่างกาย จะมีการหลั่งสารเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของเด็กออกมา ยิ่งเด็กนอนหลับได้ยาวนานมากเท่าไร โอกาสที่ร่างกายจะสูง และสมองทำงานยิ่งดี ในบทความนี้เราจะมาบอกถึงวิธีการ ที่จะช่วยทำให้ ลูกน้อยนอนหลับได้ยาวนาน เป็นวิการที่ง่าย พ่อแม่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ และเห็นผลได้อย่างชัดเจน ว่าแต่จะมีวิธีการอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย 4 วิธีที่จะช่วยทำให้ ลูกน้อยนอนหลับได้ยาวนาน ส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้สูง และนี้คือ 4 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยทำให้ ลูกน้อยนอนหลับได้ยาวนาน ยิ่งขึ้น จะเห็นว่าวิธีทั้งหมดที่เราได้นำเสนอนี้ เป็นวิธีที่ง่าย รูปแบบไม่ซับซ้อน พ่อแม่ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้ทันที Latest Posts
กิจกรรมสำหรับเด็กเล็ก ที่จะช่วยทำให้เด็ก มีสมาธิ และ ความจำดี
เมื่อลูกน้อยของเราเริ่มมีอายุ 2 ขวบ จะเป็นช่วงที่เด็ก ๆ อยากจะเรียนรู้เรื่องราวสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ซึ่งในช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่พ่อแม่ควรให้การเรียนรู้กับลูก ๆ อย่างเต็มที่ ด้วยการหากิจกรรมต่าง ๆ ให้ได้ทำ เมื่อมีกิจกรรมให้ลูกน้อยได้ทำ จะช่วยทำให้ลดการติดมือถือ ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นผลเสียต่อเด็กอย่างมาก แต่พ่อแม่สมัยใหม่มักจะละเลย และไม่คาดคิดว่า การที่ให้ลูกเล่นมือถือจะส่งผลเสียในระยะยาว ไม่ว่าจะทำให้เด็กเป็นคนมีอารมณ์ร้าย สมาธิสั้น ก้าวร้าว เป็นต้น ว่าแต่จะมีกิจกรรมอะไรบ้าง ที่ทำให้ลูกได้ทั้งความสนุก พร้อมทั้งช่วยฝึกให้มีสมาธิ เป็นคนมีความจำเก่ง และฉลาดเราไปดู กิจกรรมสำหรับเด็กเล็ก เหล่านั้นกัน 4 กิจกรรมสำหรับเด็กเล็ก ที่ได้ทั้งความสนุก และฝึกสมาธิ และเป็นเด็กเก่ง Latest Posts
ลูกน้อยกินผักง่าย ๆ วิธีการทำให้โดยที่ไม่ต้องฝืนใจบังคับให้ร้องไห้
ปัญหาของเด็กเล็กอย่างหนึ่ง ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องหนักอกหนักใจอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้ ลูกน้อยกินผักง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องฝืนใจบังคับ อย่างที่รู้กันเด็กเล็กส่วนใหญ่แล้ว จะไม่ชื่นชอบการกินผักมากสักเท่าไรนัก เมื่อไม่กินผัก ก็มีผลต่อระบบการขับถ่าย ลุกลามใหญ่โตกลายเป็นโรคเกี่ยวกับทวารได้ ในบทความนี้ เราก็เลยจะมาแนะนำวิธีการง่าย ๆ ที่จะทำให้เด็ก ๆ ชื่นชอบการกินผัก โดยที่ไม่ต้องบังคับฝืนใจ และเด็ก ๆ จะกลายเป็นคนที่ขาดผักไม่ได้เลย ว่าแต่จะมีวิธีการอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลย 5 วิธีการทำให้ ลูกน้อยกินผักง่าย ๆ ที่พ่อแม่มือใหม่ควรรู้ Latest Posts
อาหารที่ไม่ควรให้เด็กรับประทาน ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
เด็กแรกเกิดถึง 6 เดือน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้รับประทานนมแม่อย่างเดียว ซึ่งในช่วงนี้เด็กจะยังไม่ได้รับประทานอาหาร เพราะระบบย่อยอาหารของเด็กจะยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ฉะนั้นเด็กช่วงวัยแรกเกิด 6 เดือน ควรที่จะให้รับประทานนมแม่อย่างเดียวก่อน เท่านี้ก็เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของเด็กช่วงวัยนี้แล้ว และเมื่ออายุเลย 6 เดือนขึ้นมา ค่อยเพิ่มอาหารตามวัยของเด็กเข้าไป และเมื่อเด็กสามารถรับประทานอาหารได้แล้ว สิ่งที่พ่อแม่ควรคำนึงถึงก็คือ อาหารที่ไม่ควรให้เด็กรับประทาน จะมีอาหารประเภทใดบ้างนั้นไปดูกันได้เลยดังต่อไปนี้ อาหารที่ไม่ควรให้เด็กรับประทาน สำหรับเด็ก การรับประทานอาหาร ของเด็กเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่คนเป็นพ่อแม่ต้องคำนึงถึง เพราะหากรับประทานเข้าไปแล้วอาจจะส่งผมให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดการเจ็บป่วยตามมาภายหลัง ซึ่งจะมีอาหารประเภทใดบ้างนั้นไปดูกันเลยที่บทความ แม่และเด็ก เกลือเป็นเครื่องปรุงที่ไหนคนนำมาใส่ลงไปในอาหาร หากใช้ในปริมาณที่มากจนเกินไปในอาหารสำหรับเด็ก อาจจะทำให้เกิดการสะสมและเกิดการทำงานของไตผิดปกติ อาหารที่ไม่ควรให้เด็กรับประทาน ดังนั้นวิธีการปรุงอาหารควรที่จะใส่ในปริมาณที่น้อย หรืออาจจะไม่ใส่เลยก็ได้ควรปรุงเป็นอาหารรสจืด น้ำตาลจะมีรสหวานหากมาปรุงเป็นอาหารให้กับเด็กในปริมาณมากๆอาจจะทำให้เกิดการสะสมในระยะยาว ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และทำให้เป็นโรคอ้วนได้ หรืออาจจะส่งผลให้เด็กฟันผุ ติดรับประทานอาหารรสหวานไปเลย ไขมันอิ่มตัวจะส่งผลให้คอเลสเตอรอลเพิ่มสูงขึ้น หากนำไปทำอาหารให้เด็กในปริมาณมากจะทำให้มีไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งอาหารประเภทนี้จะเป็น เนย ชีส เค้ก เป็นต้น ถึงแม้ว่าน้ำผึ้งจะเป็นสิ่งที่ได้มาจากธรรมชาติ แต่น้ำผึ้งนั้นก็ยังเป็นของดิบที่ไม่ปรุงสุก ดังนั้นหากนำน้ำผึ้งมารับประทานในเด็กที่มีอายุน้อย อาจจะทำให้มีสารแบคทีเรียปะปนอยู่ในน้ำผึ้งได้ ฉะนั้นต้องระมัดระวังในการใช้น้ำผึ้งกับเด็ก อาหารที่ไม่ควรให้เด็กรับประทานเครื่องดื่มประเภทนี้เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน หากเด็กรับประทานเข้าไปอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ อาจจะไปทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ส่งผลให้เกิดอันตรายต่างๆตามมาภายหลังมากมาย อาหารที่ไม่ควรให้เด็กรับประทานที่เรานำมาให้ท่านได้รู้ในวันนี้ […]