ในปัจจุบันพบ ภาวะเด็กโตเร็วกว่าปกติ ทั้งในเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการสำรวจมักพบภาวะนี้ในเด็กผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชาย เกิดจาก 3 สาเหตุ คือ สาเหตุแรกด้านพันธุกรรม พ่อแม่อาจเคยมีภาวะนี้มาก่อน สาเหตุที่สอง ด้านอาหาร โภชนาการ และสาเหตุที่สาม ด้านการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจของเด็ก ที่มาจากสภาพแวดล้อมในครอบครัวและสภาพแวดล้อมในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำความรู้จัก และรับมือ ภาวะเด็กโตเร็วกว่าปกติ ภาวะเด็กโตเร็วกว่าปกติ ในเด็กผู้หญิงพบว่าสมองไปกระตุ้นรังไข่ให้สร้างฮอร์โมนเพศเอสโตรเจน ส่วนในเด็กผู้ชายสมองไปกระตุ้นอัณฑะให้สร้างฮอร์โมนเพศเทสโทสเตอโรนด้วยเช่นกัน ฮอร์โมนเหล่านี้จะส่งผลต่อร่างกายของเด็กทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจ ยกตัวอย่างเช่น ด้านจิตใจ เด็กผู้หญิงอาจจะเกิดความเครียด ความกลัว ความวิตกกังวลในการปรับตัวเข้ากับกลุ่มเพื่อน อาจโดนเพื่อนล้อเลียนเรื่องรูปร่าง ส่วนเด็กผู้ชายจะมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ ลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายของเด็กที่พบภาวะเด็กโตเร็วกว่าปกติที่มีความเหมือนกัน คือ เด็กปกติจะมีส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐาน แต่ถ้าเด็กที่อยู่ในภาวะนี้ทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายนี้จะมีส่วนสูงมากกว่าเด็กปกติ เบื้องต้นพ่อแม่สามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายของเด็กได้ โดยในเด็กผู้หญิงจะมีเต้านมขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเด็กปกติ ส่วนเด็กผู้ชายจะมีส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นเร็วกกว่าเด็กปกติ วิธีการรักษาเด็กที่อยู่ในภาวะเด็กโตเร็วกว่าปกตินั้น ก่อนรักษาแพทย์จะทำการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเด็กจากพ่อแม่ สภาพแวดล้อมจากการเลี้ยงดู อาหาร โภชนาการ เพื่อทำการประเมินการรักษา โดยแพทย์อาจจะเลือกวิธีรักษาภาวะเด็กโตเร็วกว่าปกติโดยการเอ็กซเรย์มือเพื่อประเมินอายุกระดูกของเด็ก ค่าที่ได้นั้นจะบอกได้ว่าอายุกระดูกของเด็กมากกว่าอายุจริงหรือไม่ และอีกหนึ่งวิธี คือ การตรวจเลือดเพื่อวัดระดับค่าฮอร์โมนเพศ ถ้าเด็กมีค่าที่เพิ่มสูงขึ้น อาจจะต้องใช้ยาในการรักษาเพื่อปรับลดฮอร์โมนเพศให้อยู่ในระดับปกติ สามารถติดตามบทความ แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก โรคเด็ก เรื่องน่ารู้ […]
Category: โรคเด็ก
อาการเด็กนอนกรน ปัญหาที่พ่อแม่จำเป็น ต้องคอยเฝ้าสังเกตการ
อาการเด็กนอนกรน มักพบได้ทุกช่วงอายุ ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ วัยเด็กพบว่ามีจำนวนน้อยที่มีปัญหาเรื่องการนอน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กก่อนเข้าวัยเรียนและเด็กช่วงวัยประถมศึกษา ซึ่งปัญหาการนอนของเด็กวัยนี้ เป็นอาการบ่งบอกที่สำคัญว่าทางเดินหายใจส่วนต้นมีการอุดตัน อาจส่งผลต่อร่างกายให้เกิดความผิดปกติทางด้านพัฒนาการและสติปัญญา รวมทั้งส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการหยุดหายใจขณะนอนหลับ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเด็กในวัยนี้ อาการเด็กนอนกรน ปัญหาทางด้านสุขภาพของเด็ก จากผลสำรวจพบว่าปัญหา อาการเด็กนอนกรน มี 2 สาเหตุ ที่ทำให้เด็กเกิดปัญหาการนอน นั่นคือ สาเหตุแรกเกิดจากต่อมอดีนอยด์โต ซึ่งต่อมนี้ทำหน้าที่ในการกำจัดเชื้อโรคและสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันในระบบทางเดินหายใจส่วนบน และสาเหตุที่สองเกิดจากการติดเชื้อเรื้อรังในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ยกตัวอย่างเช่น เด็กบางคนมีอาการป่วยด้วยโรคไข้หวัดเรื้อรัง โรคโพรงจมูกอักเสบเรื้อรัง โรคคออักเสบเรื้อรัง รวมทั้งเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับภูมิแพ้อากาศ วิธีการสังเกตลักษณะ อาการเด็กนอนกรน ที่พ่อแม่สามารถสังเกตได้ในช่วงเวลากลางคืนเมื่อเด็กนอนหลับ เด็กบางคนมักจะนอนอ้าปากหายใจ หายใจไม่สะดวก หายใจติดขัด มีเหงื่อออกเฉพาะจุดหรือเหงื่อออกทั่วทั้งตัวมากจนผิดปกติ ยกตัวอย่างเช่น บริเวณใบหน้า ศีรษะ ฝ่ามือ มีการหยุดหายใจเป็นพักๆ สะดุ้งหรือผวาตื่นกลางดึก ซึ่งลักษณะอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักพบได้ในวัยเด็กมากกว่าวัยผู้ใหญ่ วิธีการรักษา อาการเด็กนอนกรน ของเด็กมี 2 วิธี นั่นคือ วิธีแรกรักษาด้วยยาสเตียรอยด์นำมาพ่นจมูก ให้ยาลดอาการบวม ล้างจมูกให้กับเด็ก และวิธีที่สองการผ่าตัด […]
การเรียนรู้ และการดูแล เด็กออทิสติก ให้ถูกต้องอย่างถูกวิธี
ในสังคมไทยเราจะได้ยินคำว่า เด็กพิเศษ หรือ เด็กออทิสติก อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในปัจจุบันพบว่ามีเด็กกลุ่มนี้เพิ่มสูงขึ้นทุกปี คนบางกลุ่มในสังคมมักจะมีความเข้าใจว่า เด็กกลุ่มนี้มีความพิการมาตั้งแต่แรกเกิด แต่ในความจริงแล้ว มีหลายสาเหตุที่ส่งผลให้เด็กกลุ่มนี้อยู่ในภาวะของความผิดปกติของระบบสมองที่มาตั้งแต่แรกเกิด ส่งผลให้เด็กมีปัญหาทางด้านการเข้าสังคมและการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งแรกที่พ่อแม่ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจพฤติกรรมของเด็กกลุ่มนี้ เด็กออทิสติก กลุ่มเด็กที่มีความผิดปกติ ทางด้านพัฒนาการ เด็กออทิสติก เป็นกลุ่มเด็กที่มีความผิดปกติทางด้านพัฒนาการ มีความบกพร่องในด้านการเข้าสังคมและการสื่อความหมาย ซึ่งทำให้เด็กมีความยากลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน มีพฤติกรรม ความสนใจในกิจกรรมรูปแบบเดิมซ้ำๆ มีลักษณะที่ไม่ยืดหยุ่น ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ต้องได้รับการดูแล ฟื้นฟูสมรรถภาพ ความสามารถต่างๆ เฉพาะด้านที่เด็กมีและการสนับสนุนและการส่งเสริมจากพ่อแม่มากกว่าเด็กทั่วๆ ไป ในวัยเดียวกัน ภาวะของ เด็กออทิสติก มีหลายสาเหตุ ได้แก่ แม่ของเด็กอาจจะเกิดความเครียดในขณะตั้งครรภ์ อาจจะมีความผิดปกติของเด็กขณะคลอดหรือเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซม เป็นต้น เบื้องต้นมีวิธีในการสังเกตอาการของเด็กกลุ่มนี้ คือ 1.เด็กอายุ 1 ปี ไม่สามารถพูดคำเดี่ยวได้ เช่น คำว่า พ่อ แม่ เป็นต้น 2.พัฒนาการทางด้านภาษาล่าช้า 3.ไม่มีการตอบสนองต่อการที่คนอื่นเรียกชื่อของตนเอง และ 4.ไม่ชี้บอกความต้องการของตนเอง […]
โรคสมาธิสั้น ความบกพร่องของสมอง ในวัยเด็ก ภัยเงียบ ที่พ่อแม่ควรรู้
จากผลการสำรวจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พบว่ามีเด็กเกิด โรคสมาธิสั้น ในกลุ่มอายุน้อยมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เริ่มมีการเรียนรู้และสื่อสารได้เลยทีเดียว และถ้าสุ่มตรวจห้องเรียนสักห้องหนึ่ง ก็จะต้องพบเด็กที่ไม่สามารถโฟกัสกับอะไรได้นานพอ อย่างน้อยที่สุดประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ แถมยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นทุกปี ด้วยสื่อของยุคปัจจุบันที่ค่อนข้างเร็ว ดึงความสนใจอยู่ตลอดเวลา จึงเหมือนเป็นการฝึกให้เด็กจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ตรงหน้าไม่ได้เลย ทำความรู้จัก โรคสมาธิสั้น ในวัยเด็ก โรคสมาธิสั้น เป็นความบกพร่องที่เชื่อมโยงกับระบบการทำงานของสมอง การควบคุมสมาธิ การยับยั้งชั่งใจและการวางแผนในการทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งสาเหตุมาจากความสมดุลของสารสื่อประสาทในสมอง โดยเฉพาะสมองส่วนหน้าที่ควบคุมสมาธิ ความจดจ่อ การยับยั้งชั่งใจและการเคลื่อนไหวของร่างกายที่ทำงานน้อยกว่าเด็กปกติ ซึ่งเด็กบางคนมีลักษณะอาการที่พบแตกต่างกัน เช่น เด็กบางคนมีอาการอยู่ไม่นิ่งหรือเด็กบางคนมีอาการอยู่นิ่ง แต่อาจจะมีอาการเหม่อลอย อาการของ โรคสมาธิสั้น ในวัยเด็ก ส่วนมากพบว่าเด็กมักจะมีอาการเบื่อง่าย ลงมือทำสิ่งใดมักจะไม่ประสบ ความสำเร็จ ทำงานไม่รอบคอบ อยู่ไม่นิ่ง วอกแวกง่าย ดื้อซน ไม่มีสมาธิ ควบคุมพฤติกรรมของตัวเองได้ยาก หุนหันพลันแล่นและวู่วาม อาการเหล่านี้มักจะส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ของเด็ก การทำกิจวัตรประจำวันและการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวและผู้อื่น นอกจากนี้เด็กยังมีความก้าวร้าว ดื้อต่อต้านที่มีผลมาจากการถูกตำหนิและการลงโทษ คำแนะนำของแพทย์ในการดูแลเด็กที่ป่วยด้วย โรคสมาธิสั้น นั่นคือ พ่อแม่ต้องเข้าใจและยอมรับเกี่ยวกับความบกพร่องของเด็ก จัดสภาพแวดล้อมให้เป็นระเบียบ […]
ทำความรู้จัก โรคพฤติกรรมดื้อต่อต้าน ในเด็กวัยเล็ก และเด็กวัยประถม
ในปัจจุบันพบว่าเด็กไทยมี โรคพฤติกรรมดื้อต่อต้าน มากขึ้น ส่วนใหญ่มักจะพบในเด็กวัยเล็กไปจนถึงเด็กวัยประถม เด็กกลุ่มนี้มักจะมีอาการอารมณ์ฉุนเฉียว โมโหง่ายอยู่เป็นประจำ ซึ่งพฤติกรรมอารมณ์ของเด็กในช่วงอายุและวัยนี้มีแนวโน้มที่จะไม่ลดลงและอาจจะกลายเป็นการต่อต้าน ส่งผลกระทบต่อการเข้าสังคมของเด็กและความสัมพันธ์กับคนอื่นในอนาคตได้ โรคพฤติกรรมดื้อต่อต้าน ในวัยเด็ก โรคพฤติกรรมดื้อต่อต้าน เป็นพฤติกรรมของเด็กวัยเล็กในช่วงอายุ 2-3 ปี ไปจนถึงเด็กวัยประถมในช่วงอายุ 8-9 ปี เด็กในช่วงวัยนี้พยายามที่จะเป็นตัวของตัวเอง ไม่รู้ขอบเขตของตัวเองว่าควรทำหรือไม่ควรทำสิ่งใด จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อมีผู้ใหญ่บอกว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นดีหรือไม่ดี นอกจากลักษณะอาการของเด็กจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวและโมโหง่ายแล้ว ยังมีพฤติกรรมในด้านอื่นๆ อีก ได้แก่ การก่อกวนผู้อื่น ไม่ทำตามกฎระเบียบ ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้มักจะแสดงออกต่อพ่อแม่ สาเหตุที่ทำให้เกิด โรคพฤติกรรมดื้อต่อต้าน ในเด็ก ส่วนหนึ่งที่พบ คือ มาจากบุคลิกของเด็ก เด็กจะค่อนข้างมีความชัดเจนในตัวเอง และอีกสาเหตุหนึ่งมาจากสิ่งแวดล้อมในครอบครัว เช่น พ่อแม่อาจจะมีปฏิกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อการต่อต้านพฤติกรรมของเด็ก ซึ่งถ้าเด็กแสดงพฤติกรรมลักษณะนี้ออกมามากๆ อาจจะส่งผลเสียต่อเด็กในอนาคต เช่น เด็กอาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากคนในสังคมและจะมีความภาคภูมิใจในตัวเองลดต่ำลงเมื่อได้แสดงออกต่อหน้าคนอื่น โรคพฤติกรรมดื้อต่อต้าน ในเด็กมักจะมีความสัมพันธ์กับโรคพฤติกรรมเกเรต่อต้านสังคม วิธีการรักษาโรคชนิดนี้สามารถรักษาได้โดยการประเมินความสัมพันธ์คนในครอบครัวเป็นอันดับแรก เนื่องจากว่าเด็กบางคนมีลักษณะเฉพาะบางอย่าง ซึ่งอาจจะใช้วิธีรักษาในบางวิธี ในส่วนของพ่อแม่ต้องให้เวลากับลูกมากขึ้น พูดชมเชยต่อเมื่อเด็กมีพฤติกรรมที่ดี เพิกเฉยต่อเด็กเมื่อมีพฤติกรรมที่ไม่ดีและไม่ควรดุหรือตีเด็ก ซึ่งถ้าดุหรือตีเด็กจะส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมที่ต่อต้านมากขึ้น สามารถติดตามบทความ แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก โรคเด็ก เรื่องน่ารู้ […]
การดูแลรักษาเมื่อ ผิวลูกแห้ง ให้กลับมาชุ่มชื้น น่าหอม น่าสัมผัส อีกครั้ง
เพราะผิวของลูกน้อยวัยทารก เป็นอะไรที่ค่อนข้างบอบบ้าง ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ตรงกันข้ามหากดูแลไม่ดีพอ ก็ตามมาด้วยปัญหาต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ ผิวลูกแห้ง ผิวลอกแดง เป็นผื่นคันก็มี โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่อากาศเย็นๆ จะเจอปัญหาได้บ่อย แต่บางกรณีก็สามารถเกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลอื่นๆ เพราะนอกจากอากาศแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ ผิวลูกแห้ง ผิวลูกแห้ง เกิดจากอะไร ในช่วงวัยเด็ก โครงสร้างผิวและต่อมไขมันใต้ผิว จะต้องมีการปรับสภาพให้สมดุล มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในขณะชั้นเซลล์ผิวยังเรียงตัวไม่แข็งแรง และกระบวนการกักเก็บความชุ่มชื้นยังไม่ดีพอ เท่ากับกระบวนการทำงานผิวในวัยผู้ใหญ่ ผิวจึงเกิดการสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย เมื่อเจอปัจจัยต่างๆ ที่มากระตุ้นให้ ผิวลูกแห้ง และความชุ่มชื้นหายไป สาเหตุที่ทำให้ ผิวลูกแห้ง ผิวลอก สภาพอากาศ ทั้งอากาศภายนอกที่ผิวลูกน้อยเจอกับแดด รังสียูวี มีผลให้ผิวเสียความชุ่มชื้นได้ แต่ในขณะเดียวสภาพอากาศในบ้านก็มีผลเช่นเดียวกัน ยิ่งอยู่กับเครื่องปรับอากาศที่มีความเย็นตลอด ก็ส่งผลให้ผิวแห้งกร้านได้ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม ยิ่งผิวเด็กยิ่งบอบบาง เพราะฉะนั้นการเลือกทั้งขั้นตอนอาบน้ำและบำรุง ก็ต้องเช็คให้ดี บางผลิตภัณฑ์ก็อาจมีส่วนประกอบของสารระคายเคืองอยู่และอาจทำให้ ผิวลูกแห้ง ได้นั้นเอง วิธีรักษาผิวลูกแห้ง ให้ชุ่มชื้น เลือกผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่อ่อนโยน อันดับแรกดูได้จากส่วนประกอบที่ฉลากได้แจ้งไว้ โดยหลีกเลี่ยงสารทำความสะอาดรุนแรง สารกลุ่มซัลเฟต ชื่อสารเหล่านี้ เช่น […]
เลี้ยงเด็กด้วยโทรศัพท์ ส่งผลเสียกับเจ้าตัวลูกน้อย อย่างมากมาย
ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือ เปรียบเสมือนเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันนของเราเลยก็ว่าได้ เพราะเราจะต้องมีการติดต่อสื่อสารหรือค้นหาข้อมูลต่างๆ ซึ่งโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันมีความสามารถที่หลากหลายมาก เช่น ค้นหาข้อมูล ท่องเว็บไซต์ เล่นเกมส์ สนทนา หรือการโทรศัพท์โดยการมองเห็นหน้ากันได้แม้จะอยู่ไกลสักเพียงใด นับได้ว่าโทรศัพท์ได้ก้าวล้ำไปไกลจากเดิมอย่างรวดเร็ว ในครอบครัวบางครอบครัวนั้น เมื่อพ่อแม่ไม่มีเวลาในการดูแล เอาใจใส่ลูกหลานมากเท่าที่ควร การที่จะทำให้เด็กไม่ก่อกวน สร้างความรำคาญ หรือร้องไห้งอแง เลี้ยงเด็กด้วยโทรศัพท์ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่พ่อแม่มักจะเลือก โดยพ่อแม่ที่ไม่มีเวลา มักจะให้ลูกหลานเล่นโทรศัพท์มือถือ ข้อเสียของการ เลี้ยงเด็กด้วยโทรศัพท์ ซึ่งถ้าหากเป็นเด็กเล็กมากๆ การ เลี้ยงเด็กด้วยโทรศัพท์ จะเป็นอันตรายต่อดวงตาและระบบประสาทของพวกเขาเป็นอย่างมาก โดยหลักของอันตรายต่อดวงตาก็มาจาก แสงสีฟ้า ที่หน้าจอของโทรศัพท์มือถือ ยิ่งถ้าหากให้เด็กๆใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ทำให้เด็กตาบอดได้เลยเช่นกัน แต่พ่อแม่หลายท่ามักจะเถียงกันว่า เมื่อ เลี้ยงเด็กด้วยโทรศัพท์ เด็กๆจะนิ่งและตั้งใจในการใช้มันอยู่เสมอ ในกรณีนี้อาจจะจริงอยู่ที่พวกเขาจะมีสมาธิและใจจดใจจ่ออยู่กับสิ่งๆนั้น แต่เมื่อพ่อแม่ขอโทรศัพท์มือถือคืน เด็กก็มักจะแสดงอาการที่ร้องไห้งอแง หรือแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวให้เราเห็นได้ ไม่เพียงแค่เด็กเล็กที่อันตรายเท่านั้น ในเด็กหรือวัยรุ่นโดยทั่วไปก็อันตรายด้วยเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่เรามักจะคิดว่าไม่ดีจากโทรศัพท์อยู่เสมอ คือ การเล่นเกมส์ การเปิดเว็บที่ไม่เหมาะสม หรือการใช้โทรศัพท์ไปในทางที่ไม่ดี ผู้ใหญ่หลายคนมักจะเป็นห่วง และพยายามควบคุมในการใช้โทรศัพท์มือถือของเด็กๆ เลี้ยงเด็กด้วยโทรศัพท์ มีข้อเสียอีกมากมายต่อเด็กๆ ซึ่งพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้พวกเขา ก็ควรที่จะคอยเตือน […]
โรควิตกกังวลในเด็ก ที่พ่อแม่ควรรู้ และหาวิธีป้องกัน ในทิศทางที่ถูกต้อง
โรควิตกกังวลในเด็ก มีความคล้ายคลึงกับโรควิตกกังวลในผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อเด็กวัยเรียนจนกระทั่งผู้ใหญ่วัยทำงาน มีหลายสาเหตุที่ส่งผลให้ตกอยู่ในสภาวะวิตกกังวล เครียดและซึมเศร้ากับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ประเทศไทยพบสถิติของคนที่เข้ารับการรักษาโรคนี้ตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักแสนและค่อยๆ เพิ่มขึ้น 3-4 เท่า ซึ่งโรคนี้ส่งผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์ ด้านสังคม ด้านการเรียนและการทำงานในอนาคต ทำความรู้จัก โรควิตกกังวลในเด็ก โรควิตกกังวลในเด็ก คือ อาการหรือความคิดที่กลัวบางสิ่งบางอย่างล่วงหน้า มีความกังวลในเชิงลบ ไม่สามารถควบคุมหรือหยุดคิดได้ เด็กบางคนอาจจะประสบพบเจอการถูกข่มขู่หรือการพูดย้ำซ้ำๆ หลายครั้งจากพ่อแม่หรือครูที่โรงเรียน ส่งผลให้เด็กเกิดความกลัวสิ่งนั้น บางคนเกิดความกลัวตั้งแต่เด็กจนกระทั่งโต เช่น เด็กบางคนกลัวเข็มฉีดยา กลัวหมอ กลัวสอบตก เป็นต้น ความกลัว ความวิตกกังวลลักษณะนี้ มักจะมีหลายสาเหตุและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเด็กทั้งทางตรงและทางอ้อม โรควิตกกังวลในเด็ก ส่วนมากพบอยู่ 2 โรค นั่นคือ 1. โรควิตกกังวลทั่วไป โรคนี้มักจะมีอาการที่ไม่รุนแรงมาก เป็นความวิตกกังวลในเรื่องทั่วๆ ไป เช่น เด็กอาจจะมีความวิตกกังวลในเรื่องการเรียน การสอบ และ 2. โรคกลัวการเข้าสังคม ความกลัวส่งผลให้เด็กต้องปลีกตัวออกจากกลุ่มเพื่อน ไม่มีความกล้าแสดงออกและไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับเด็กนั้นมาจากอายุและวัย การเรียน […]
ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับอาการ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ในช่วงวัยทารกแรกเกิด
การร้องไห้ไม่มีสาเหตุนั้น มักเป็นเรื่องกวนใจของเหล่าบรรดาพ่อแม่มือใหม่เป็นอย่างมาก หรือแม้กระทั้งพ่อแม่ที่พอมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว หากเจอปัญหา ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ขึ้นมา แน่นอนว่าก็ต้องหาวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ลูกของเรานั้นสงบลง ซึ่งเด็กทารกในช่วงแรกเกิดนั้น เขาจะมีความเซนซีทีฟกับโลกภายนอกเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าตอนอยู่ในครรภ์มารดาเขาจะรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นมากกว่านั่นเอง อาการลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ โดยอาการ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ในวัยเด็กทารกแรกเกิดนั้น ก็มีปัจจัยหลายอย่างซึ่งพวกเขาไม่สามารถที่จะสื่อสารกับเราได้โดยตรง จึงใช้วิธีการร้องไห้แทนเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ อย่าง หิวนม รู้สึกไม่สบายตัว ง่วงนอน หรือ รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย แม้กระทั่งอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ก็บ่งบอกถึงความไม่สบายตัวของเขาได้ ซึ่งการสังเกตดูเวลาที่ลูกน้อยของเราร้องไห้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เพราะจะทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้อย่างถูกวิธี ซึ่งการสังเกตอาการ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เข้าใจในตัวลูกของเรามากขึ้น ว่าเขาต้องการอะไร แล้วสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หากเจอกับปัญหานี้ อยากแนะนำให้ดูว่าที่ลูกน้อยร้องไห้ขึ้นมานั้น มันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ เพราะเราจะได้แก้ไขให้ตรงจุดนั่นเอง หากเราทำตามความต้องการทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ป้อนนม กล่อมให้นอน เปลี่ยนแพมเพิส อุ้มเดิน หรือทำทุกสิ่งทุกอย่างแล้วแต่ก็ไม่หายสักที ไม่แน่ว่าอาจจะมีอาการป่วยแอบแฝงอยู่ก็ได้ แนะนำลองพาไปปรึกษาคุณหมอเพื่อให้ลองตรวจวินิจฉัยตามอาการ แต่ส่วนใหญ่แล้วพ่อแม่ก็จะต้องหาวิธีในการแก้ปัญหา เกี่ยวกับอาการ ลูกร้องไห้ไม่มีสาเหตุ […]
ทำความรู้จัก และทดสอบหา “ภูมิแพ้ในเด็ก” เรื่องใกล้ตัว ที่พ่อแม่ควรระวัง
ภูมิแพ้ถือเป็นโรคที่อันตราย เพราะการจะทราบถึงสาเหตุนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย หากแพ้หนักถึงขั้นมีอันตรายส่งผลถึงชีวิตยิ่งต้องเป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญอย่างมาก ภูมิแพ้เกิดจากการทำงานผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ที่มักเกิดเพราะความผิดปกติทางพันธุกรรม มีแนวโน้มที่จะสร้างภูมิต้านทานที่มีความไวต่อสารก่อภูมิแพ้ซึ่งพบได้ในทั้งคน สุนัข แมว ม้า แมลง หรือแม้แต่พืชพันธุ์ดอกไม้ ซึ่งภูมิแพ้แต่ละชนิดนั้น จะมีความแตกต่างกันออกไป เช่น ทางผิวหนัง และ ระบบทางเดินหายใจ แต่สำหรับ ภูมิแพ้ในเด็ก นั้นแตกต่างจากภูมิแพ้ในผู้ใหญ่ เพราะสำหรับเด็กบางคนมีปัญหาจากการทานนมของแม่ จึงจำเป็นต้องทานนมวัน แต่ถ้าทานนมวัวไปนาวๆ ก็อาจมีผดผื่นขึ้นตามตัว ผิวหนังอักเสบ หรือหากเป็นหนักอาจะมีอาหารหอบได้ ยิ่งถ้าหากเป็นเด็กในวัยที่โตขึ้น อย่างวัยอนุบาลก็จะมีโอกาสที่จะสัมผัสกับสารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้มากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เช่น ไรฝุ่นในบ้าน ละอองเกสรดอกไม้ ขนหรือน้ำลายสัตว์เลี้ยง ควันบุหรี่ แพ้อากาศ อาจมีอาการคัดจมูก แน่นจมูก ไอ่จาม หากปล่อยไว้และไม่รับการรักษาอย่างถูกวิธีอาจทำให้เป็นต่อเนื่องจนถึงตอนโต และมีอาการหนักขึ้นจนมีอาการที่รุนแรงรักษาได้ให้หายได้ยากขึ้นก็เป็นได้ การเตรียมตัวทดสอบหาภูมิแพ้ในเด็ก ควรงดทานยาแก้แพ้ก่อนที่จะเข้ารับการทดสอบ อย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ผลทดสอบออกมาไม่คลาดเคลื่อน หากทานยาชนิดอื่นอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน เพราะยาบางชนิดนั้นมีสารบางอย่างที่ทำให้การทดสอบไม่ได้ผล อีกทั้งยังอาจเกิดผลข้างเคียงที่มีอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย งดทาโลชั่นหรือยาที่ผิวหนังก่อนมาทดสอบอย่างน้อย 1 วัน ไม่จำเป็นต้องงดน้ำ […]