คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนเมื่อรูปร่างเปลี่ยนแปลง มีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นทำให้ไม่มี ความมั่นใจ ที่จะสวมใส่เสื้อผ้าออกไปข้างนอก เพราะคิดว่าจะทำให้ดูไม่ดี ใส่แล้วไม่เข้ารูปไม่สวยดังเดิม วันนี้เรามีเทคนิคในการเลือกเสื้อผ้าในการสวมใส่ช่วงที่ตั้งครรภ์มาให้คุณแม่หลายคนได้ลองเลือกใช้ รับรองว่าวิธีการเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่เราจะแนะนำดังต่อไปนี้ จะสร้างความมั่นใจให้คุณแม่ได้อย่างมาก แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก ไม่ว่าจะแต่งตัวด้วยสไตล์ใด รับรองรอดอย่างแน่นอน จะมีชุดใดบ้างนั้นไปดูกันเลย เสริม ความมั่นใจ คุยกับคุณแม่ตั้งครรภ์ ด้วยชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ถึงแม้จะเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์ ผู้หญิงก็ไม่ควรที่จะหยุดสวย เสื้อผ้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องให้ความสำคัญ ถึงแม้ว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น รูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม จะทำให้คุณสวมใส่เสื้อผ้าได้ไม่สวย แต่วันนี้ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ด้วยวิธีการเลือกใส่เสื้อผ้าที่เสริมความมั่นใจให้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ รับรองว่าชุดเหล่านี้จะทำให้คุณแม่ดูสวย งดงามอย่างยิ่ง ชุดมินิเดรส ในช่วงอายุครรภ์ 4-5 เดือน เป็นช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ชุดมินิเดรสเป็นชุดที่คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถสวมใส่ได้ โดยสวมใส่มินิเดรสที่มีความสั้นอยู่ระดับเลยเขาขึ้นมานิดนึง จะทำให้ดูสวยและดูดีอย่างที่สุด ด้านในชุดสวมใส่กางเกงขาสั้นสบายๆครับเข้าไปอีกจะเป็นการป้องกันช่วงล่างไม่ให้ดูโป๊จนเกินไป ชุดเอี๊ยมกระโปรงยาว ชุดเอี๊ยมกระโปรงยาวเป็นชุดที่หลายคนนิยมสวมใส่ จะสามารถคลุมท้องได้ดี ไม่ดูโป๊จนเกินไป ชุดที่สวมใส่แล้วดูน่ารัก เลือกเนื้อผ้าที่ยืดหยุ่นดี ไม่รัดรูปจนเกินไป สวมใส่แล้วดูสบาย เลือกสวมใส่สีที่เป็นสีเข้ม จะทำให้คุณดูไม่อ้วนจนเกินไป 4. ชุดเดรสผ้าลินิน ผ้าลินินเป็นผ้าที่ใส่แล้วดูสบาย มีความเบาของเนื้อผ้า ไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือการระคายเคืองต่อผิว คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านเลือกซื้อผ้าชนิดนี้มาสวมใส่กันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชุดเดรสที่ทำด้วยผ้าลินิน […]
Tag: ตั้งครรภ์
การตรวจฟันของคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรตรวจเพื่อสุขภาพฟันที่ดี ของแม่และเด็ก
เป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้ามเกี่ยวกับเรื่องการตรวจสุขภาพฟันขณะที่ตั้งครรภ์ เนื่องจากคนมองว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพเด็ก ทว่าจริง ๆ แล้วสุขภาพฟันก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกายรวมถึงสุขภาพของเด็กด้วยเช่นกัน มาดูกันว่า การตรวจฟันของคุณแม่ตั้งครรภ์ มีประโยชน์อย่างไร การตรวจฟันของคุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่ออะไร มีประโยชน์อย่างไร ลูกจะไม่เป็นฟันผุด้วย – การตรวจฟันของคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรตรวจเพื่อสุขภาพของ แม่และเด็ก ทราบหรือไม่ว่าคุณแม่ที่ฟันผุเมื่อรับประทานอาหารเข้าไปจะส่งเชื้อไปยังลูกที่อยู่น้อยด้วย หมายความว่าเมื่อคลอดลูกมาแล้วเด็กมีโอกาสที่จะเป็นฟันผุสูงเลยล่ะ ดังนั้นการตรวจสุขภาพฟันจึงสำคัญและไม่ควรที่จะปล่อยให้เกิดฟันผุโดยเฉพาะขณะที่ตั้งครรภ์อยู่ ควรดูแลสุขภาพช่องปากและแปลงฟันอย่างน้อยวันละสองครั้งหลังอาหารเพื่อป้องกันฟันผุ ลดการคลอดก่อนกำหนด – การตรวจฟันของคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรตรวจเพื่อสุขภาพของ แม่และเด็ก เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจไม่น้อยเลยว่าปัญหาเกี่ยวกับฟันของแม่จะมีผลต่อลูกด้วย ลูกอาจคลอดก่อนกำหนดหรือมีน้ำหนักตัวน้อยได้ด้วย ดังนั้นดูแลสุขภาพฟันเอาไว้คุ้มกว่ามากเลยล่ะ รักษาอาการเหงือกอักเสบได้แต่เนิ่น ๆ – การตรวจฟันของคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรตรวจเพื่อสุขภาพของ แม่และเด็ก หลังจากที่ตั้งครรภ์ฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลงไป นอกเหนือจากเรื่องของอารมณ์ที่มีความแปรปรวนแล้ว ยังมีโอกาสที่จะเป็นเหงือกอักเสบได้ง่ายอีกด้วย หากมีอาการขึ้นก็ควรไปตรวจกับแพทย์แต่เนิ่น ๆ เพื่อให้สามารถรักษาได้อย่างรวดเร็วและรักษาได้ง่ายขึ้น เนื้อฟันกร่อน – การตรวจฟันของคุณแม่ตั้งครรภ์ ควรตรวจเพื่อสุขภาพของ แม่และเด็ก ด้วยความที่เด็กที่อยู่ในท้องต้องการวิตามินและสารอาหารต่าง ๆ จากตัวของแม่เอง ทว่าบางคนกลับไม่ได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอทำให้ลูกดึงแคลเซียมจากตัวแม่ไปด้วย เป็นเหตุให้เนื้อฟันของตัวแม่เองกร่อนได้ ทว่าไม่ใช่เพราะเหตุผลนั้นอย่างเดียวแต่แม่บางคนที่อาเจียนบ่อย ๆ ก็มีโอกาสที่จะทำลายฟันได้มากเพราะในน้ำย่อยนั้นมีกรดอยู่ การที่อาเจียนออกมาบ่อย […]
ท้องตอนอายุมากกว่า 30 ปี ส่งผลต่อลูกน้อยจริงหรือ? อย่างไร? ที่นี่มีคำตอบ
เป็นเรื่องที่สาว ๆ หลายคนเป็นกังวลกันว่าหากตัวเองมีลูกตอนที่อายุมากแล้วหมายถึงตอนอายุ 30 ปีขึ้นไปลูกในท้องจะแข็งแรงหรือไม่ จะมีความผิดปกติอะไร หรือการมีลูกจะยากขึ้นจริงหรือ? ทั้งนี้เราจะมาตอบคำถามเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน ท้องตอนอายุมากกว่า 30 ปี ส่งผลต่อลูกน้อยจริงหรือ? ไขข้อข้องใจ ท้องตอนอายุมากกว่า 30 ปี ส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์จริงหรือ ท้องตอนอายุมากกว่า 30 ปีส่งผลต่อลูกน้อยจริงหรือ? ร่างกายของเราคนเรามีการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาเช่นเดียวกับอวัยวะต่าง ๆ และฮอร์โมนในร่างกายที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไป ความสมบูรณ์ในร่างกายของเราก็จะลดลงไปตามกาลเวลาอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ปกติอย่างมาก ทว่าในปัจจุบันนั้นเรามีวิธีในการดูแลตัวเองที่มากขึ้น มีการรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย รู้จักการผ่อนความความเครียดจากการทำงานหนัก ออกกำลังกายมากขึ้น ซึ่งกิจวัตรเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายของเราแก่ช้าลงไปนั่นเอง นั่นหมายความว่าการตั้งครรภ์ของคุณแม่ปัจจุบันสามารถทำได้ถึงอายุ 35 – 40 ปีในหมู่คนที่มีร่างกายแข็งแรง ทว่าก็ยังคงเป็นเรื่องกังวลเกี่ยวกับความแข็งแรงของไข่และมดลูกของสาว ๆ ในวัยนี้ ดร.จีน ทเวนจ์ นักจิตวิทยาได้ออกมาบอกว่าเธอเองก็เป็นหนึ่งในคนที่มีความกังวลเกี่ยวกับการมีลูกช้าของตัวเอง ทว่าหลังจากที่ศึกษามายังไม่มีผลวิจัยที่บอกว่าผู้หญิงที่อายุมากกว่าสามสิบจะไม่สามารถมีลูกได้หรือลูกที่คลอดออกมาจะไม่แข็งแรง แม้จะมีข่าวเกี่ยวกับผู้ที่มีลูกในวัยที่มากแล้วจะเสี่ยงในเรื่องของการเป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ต้องผ่าคลอดเพราะแรงเบ่งมีไม่พอ รกเกาะต่ำ เด็กมีความเป็นไปได้ว่าจะมีความบกพร่องต่าง ๆ เช่น พิการ เป็นดาวน์ซินโดรม ก็ตามที ท้องตอนอายุมากกว่า 30 ปีส่งผลต่อลูกน้อยจริงหรือ? […]
พัฒนาการ 9 เดือนของลูกในท้อง ลูกมีความเติบโตในครรภ์อย่างไร?
เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าในท้องของคุณแม่นั้นเด็ก ๆ จะมีการเติบโตและเปลี่ยนแปลงในท้องอย่างไรบ้างก่อนที่เด็กจะคลอดออกมา เวลาเก้าเดือนที่อยู่ในท้องของแม่นั้นลูกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง พัฒนาการ 9 เดือนของลูกในท้อง ลูกมีความเติบโตในครรภ์อย่างไร? พัฒนาการ 9 เดือนของลูกในท้อง เป็นอย่างไรบ้าง? หลังจากที่เกิดการปฏิสนธิระหว่างไข่ของฝ่ายแม่และตัวอสุจิที่แข็งแรงของฝ่ายแม่แล้วจะทำให้เกิดเด็กขึ้นมา ซึ่งเด็กคนนี้จะเริ่มต้นจากการเป็นเซลล์เล็ก ๆ เสียก่อนที่จะเติบโตอย่างเต็มที่เมื่อครบกำหนดเวลาประมาณเก้าเดือนนั่นเอง ทั้งนี้ ในเดือนที่หนึ่งจะเป็นช่วงของการแบ่งเซลล์และสร้างเซลล์เรื่อย ๆ อยู่ในโพรงมดลูกของแม่นั่นเอง พัฒนาการ 9 เดือนของลูกในท้องในเดือนที่สองเซลล์ต่าง ๆ จะเริ่มรวมกันเป็นตัวอ่อนเป็นที่เรียบร้อยและสามารถมองเห็นเป็นตัวจากการอุลตร้าซาวด์ได้ และเริ่มที่จะมีแขนขางอกออกมาแล้วด้วยนั่นเอง พอเดือนที่สามพัฒนาการ 9 เดือนของลูกในท้อง จะยิ่งเห็ตัวทารกที่ชัดเจนขึ้นๆ ไปอีก แขนและขาเริ่มยาวออกมาแล้ว ลูกเริ่มที่จะกินน้ำคร่ำของแม่ได้แล้วอีกด้วย ในเดือนที่สี่นี้ลูกของเราจะเริ่มได้ยินเสียงต่าง ๆ แล้วคุณแม่คุณพ่อสามารถเริ่มพูดกับลูกได้แล้วนั่นเองนอกจากนี้ยังเริ่มเห็นเพศแล้วด้วย ในเดือนต่อมาเดือนที่ห้าพัฒนาการ 9 เดือนของลูกในท้อง เป็นเดือนที่ตัวอ่อนเริ่มเติบโตขึ้นมากทำให้คุณแม่รู้สึกถึงการดิ้นของลูกได้แล้ว มือเท้าของลูกเริ่มที่จะมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งยังมีประสาทสัมผัสที่ครบถ้วนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียงก็สามารถรับรู้ได้แล้วในห้าเดือน ในเดือนที่หก อวัยวะที่สำคัญต่อร่างกายทั้งหลายเติมโตขึ้น ลูกขยับตัวในท้องได้มากขึ้นอีกด้วย ในเดือนที่เจ็ดเป็นเดือนที่ลูกเกือบสมดุลมากที่สุดแล้ว ซึ่งเด็กบางคนก็คลอดตอนอายุเดือนครบเจ็ดเดือนด้วยก็มีเช่นเดียวกัน ซึ่งมีโอกาสรอดสูงอยู่เพราะเด็กเกือบจะสมบูรณ์แล้วนั่นเอง เด็กเริ่มที่จะเห็นความสว่างได้แล้ว ร่างกายของเด็กจะเริ่มมีไขมาปกคลุมเพื่อเตรียมตัวที่จะคลอดแล้วนั่นเอง เดือนที่แปดพัฒนาการ […]
บรรเทาอาการแพ้ท้อง สามารถทำได้เบื้องต้น ด้วยตัวเอง ได้โดยไม่ต้องใช้ยา
คุณแม้ตั้งครรภ์เกือบทั้งหมดมักจะพบปัญหาการแพ้ท้อง ซึ่งแต่ละคนจะมีอาการและความหนักเบาของการแพ้ท้องที่แตกต่างกัน บางคนที่ไม่มีอาการแพ้ท้องเลยก็มีเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับสภาพของฮอร์โมนในร่างกายของแต่ละคนนั่นเอง แน่นอนว่ามีอาหารหลายอย่างที่คุณแม่อาจกินเสริมเข้าไปเพื่อปรับฮอร์โมนในร่างกายให้เป็นปกติและไม่รู้สึกแพ้ท้องหรือมีอาการแพ้ท้องน้อยลง อย่างไรก็ตามเมื่อคุณแม่ทั้งหลายมีอาการแพ้ท้องขึ้นมาจะรักษาอาการเหล่านั้นอย่างไรเพื่อให้ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กในท้อง บรรเทาอาการแพ้ท้อง สามารถทำได้เบื้องต้น ด้วยตัวเอง ได้โดยไม่ต้องใช้ยา เคล็ดลับ บรรเทาอาการแพ้ท้อง ด้วยตัวเอง ได้โดยไม่ต้องใช้ยา คลื่นไส้ – บรรเทาอาการแพ้ท้อง เบื้องต้นด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้ยา หากคุณแม่มีอาการคลื่นไส้สามารถบรรเทาความรู้สึกอยากอาเจียนนี้ด้วยการดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ หรือดื่มชาผลไม้ที่มีคาเฟอีนต่ำก็สามารถช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ลงได้ หรือถ้าใครอยากของเปรี้ยว ๆ หน่อยสามารถดื่มน้ำผึ้งมะนาวอุ่น ๆ ได้เช่นกัน แน่นอนว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่ได้ใช้ยาและไม่เป็นอัตรายต่อเด็กในท้องนั่นเอง ท้องผูก – บรรเทาอาการแพ้ท้อง เบื้องต้นด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้ยา คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ท้องผูกสามารถหลีกเลี่ยงการรับประทานยาระบายและเปลี่ยนมาเป็นการดื่มน้ำในแต่ละวันให้มากขึ้นแทน รับประทานอาหารที่มีกากใยเพื่อช่วยเรื่องการขับถ่าย และลดอาหารที่มีธาตุเหล็กลงบ้าง เพราะอาหารที่มีธาตุเหล็กอาจทำให้ท้องผูกได้ง่าย จุกเสียด แน่นหน้าอก – บรรเทาอาการแพ้ท้อง เบื้องต้นด้วยตัวเอได้โดยไม่ต้องใช้ยา หากคุณแม่คนไหนเกิดอาการแน่นหน้าอก อึดอัด สามารถรับประทานแครกเกอร์ที่มีความเค็มเพื่อช่วยได้ หรือดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ ก็จะช่วยให้สบายสามารถหายใจได้โล่งมากขึ้นนั่นเอง ปวดหัว – บรรเทาอาการแพ้ท้อง เบื้องต้นด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้ยา อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นในคุณตั้งครรภ์หรือคนที่มีประจำเดือนก็ตามเกิดจากการที่ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอนั่นเอง การดูแลเบื้องต้นคือการดื่มน้ำให้มากขึ้น และให้นอนหลับพักผ่อน โดยต้องนอนในที่โปร่งอากาศเย็นสบายไม่ควรนอนในห้องที่ร้อนหรืออึดอัดหายใจลำบากจะยิ่งทำให้ปวดหัวมากขึ้น หากดูและเบื้องต้นแล้วยังไม่ดีขึ้นแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการต่อไป […]
คนท้องนอนหลับและดื่มน้ำเยอะ เป็นสิ่งสำคัญ และดีต่อสุขภาพ อย่างไร?
ร่างกายของคนเราต้องการการพักผ่อนและการดื่มน้ำเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนทราบกันเป็นอย่างดี ซึ่งกานที่เราพักผ่อนด้วยการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพนั้นจะทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่นขึ้นทั้งยังได้ซ่อมแซมรักษาเซลล์ที่เสทท่อมอีกด้วย และน้ำที่เราเติมเข้าไปในร่างกายก็ไว้ชดเชยน้ำที่เราสูญเสียไปในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการขับถ่าย เหงื่อ น้ำตา หรืออื่น ๆ ที่ทำให้เราเสียน้ำไปการชดเชยน้ำที่ขาดไปจึงจำเป็นอย่างมากในการที่เราจะใช้ชีวิตในแต่ละวันให้ร่างกายของเราสุขภาพดีนั่นเอง แต่สำหรับสตรีที่ตั้งครรภ์อยู่นั้น การนอนหลับและการดื่มน้ำมีความสำคัญมากเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว ดังในวันนี้เราจะมาพูดถึงในเรื่อง คนท้องนอนหลับและดื่มน้ำเยอะ เป็นสิ่งสำคัญ และดีต่อสุขภาพ อย่างไร? คนท้องนอนหลับและดื่มน้ำเยอะ เพื่อสุขภาพที่ดี คนท้องนอนหลับและดื่มน้ำเยอะ เป็นสิ่งสำคัญ และดีต่อสุขภาพ อย่างไร? คนท้องหรือคุณแม่ตั้งครรภ์ จะมีฮอร์โมนในร่างกายที่ทำงานอย่างไม่สมดุลอันเกิดจากความเปลี่ยนทางร่างกายที่พร้อมที่จะดูแลและรักษาชีวิตน้อย ๆ ในร่างกายของเราโดยธรรมชาติ ซึ่งฮอร์โมนของเราต้องตั้งครรภ์จะมีความไม่สมดุลยิ่งกว่าเวลาก่อนมีประจำเดือนของสาว ๆ เสียอีก ดังนั้นหลายคนต้องเผชิญกับอาการแพ้ท้องที่มีหลายระดับด้วยกัน บางคนแพ้ท้องเพียงไม่กี่วัน บางคนแพ้ท้องทุกวัน บางคนก็ไม่เป็นอะไรเลยก็มีเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับฮอร์โมนในร่างกายของคนนั้น ๆ และสิ่งที่จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายของคูณแม่ตั้งครรภ์สมดุลง่ายที่สุดคือสิ่งที่ง่ายมากนั่นคือการนอนหลับให้เพียงพอและการดื่มน้ำมาก ๆ นั่นเอง ทั้งนี้การที่คุณแม่ตั้งครรภ์หรือคนท้องนอนหลับและดื่มน้ำเยอะ ฟังดูเหมือนเรื่องธรรมดาที่คนทั่วไปรู้แต่จริง ๆ แล้วทำยากมาก เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนประสบปัญหากับการที่ไม่สามารถนอนหลับให้สนิทจากฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลง หรือบางคนที่คิดว่าตัวเองนอนพอแล้วแต่ก็ยังรู้สึกง่วงทั้งวันอยู่ดี ซึ่งเหล่านี้เป็นการขัดขวางการหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ที่จะช่วยลดอาการแพ้ท้องลงได้ แน่นอนว่าเมื่อนอนไม่เต็มอิ่มจะรู้สึกเพลียและทำให้ลืมดื่มน้ำอีก นั่นยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ อาจทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รู้สึกปวดหัว วิงเวียน ขึ้นมาได้ซึ่งส่งผลให้คลื่นไส้ อาเจียนได้นั่นเอง คนท้องนอนหลับและดื่มน้ำเยอะ เป็นสิ่งสำคัญ และดีต่อสุขภาพ อย่างไร? […]
อยากมีลูกง่าย…มาทำความรู้จัก วิธีเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ ด้วยวิธีต่างๆเหล่านี้
บางครั้งการตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับบางครอบครัวอาจต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งทั้งคุณพ่อและคุณแม่ หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจมีลูกแล้วผู้หญิงหลายคนพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อตั้งครรภ์ในรอบถัดไป แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการตั้งครรภ์อาจต้องใช้เวลารู้หรือไม่ ผู้หญิงอายุ 30 ปี ที่มีสุขภาพแข็งแรง มีโอกาสตั้งครรภ์ร้อยละ 20 ในแต่ละเดือน เมื่อมีเพศสัมพันธ์ตลอดช่วงการตกไข่ ในวันนี้เราจึงมี วิธีเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ มาแนะนำ สำหรับทุกคนที่กำลังอยากมีลูก หาเวลาที่เหมาะสม เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ ด้วย วิธีเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ อย่างปลอดภัย วิธีเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ที่ดีที่สุดคือตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีเพศสัมพันธ์ในเวลาที่เหมาะสม หรือก็คือ “ช่วงเวลาตกไข่” หากคุณมีรอบเดือนปกติ คุณจะตกไข่ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน ซึ่งหมายความว่า ช่วงเวลาที่คุณอาจตั้งครรภ์จะเป็นช่วง 7 วันก่อนจะตกไข่ มีเทคนิคหลายอย่างที่คุณสามารถใช้เพื่อระบุช่วงเวลาการตกไข่และการเจริญพันธุ์ของคุณให้แม่นยำยิ่งขึ้น ได้แก่ ชุดทำนายการตกไข่ ชุดทดสอบนี้มีความคล้ายคลึงกับชุดตรวจสอบการตั้งครรภ์โดยปัสสาวะ โดยคุณต้องปัสสาวะบนแผ่นทดสอบทุกเช้า ของวันที่ 2-3 ก่อนช่วงเวลาที่คุณคิดว่าน่าจะตกไข่ แถบทดสอบจะตรวจหาฮอร์โมนลูทีไนซิ่ง (LH) ฮอร์โมนลูทีไนซิ่ง (LH) จะพุ่งสูงก่อนการตกไข่ เมื่อคุณได้รับผลบวก ควรมีเพศสัมพันธ์ในวันนั้น และในอีกสองสามวันถัดไป วัดอุณหภูมิร่างกาย ด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกายทุกวันตอนเช้าก่อนลุกจากเตียง คุณจะพบได้ว่าอุณหภูมิของร่างกายช่วงใกล้ตกไข่จะลดลงเล็กน้อย จากนั้นอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยใน 3 เช้าติดต่อกัน อาจต่างถึงครึ่งองศา […]
วิธีดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณแม่ และลูกน้อยในครรภ์
สำหรับคุณแม่ทำกำลังตั้งครรภ์ การฝากครรภ์เป็นการคัดกรองภาวะความเสี่ยง เพื่อประเมินสุขภาพทั้งแม่และเด็กทารกตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอด ซึ่งในช่วงสามเดือนแรกนั้น จะมีอาการแพ้ท้อง อาการนี้จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆและจะหายไปเอง แต่ถ้าในกรณีที่อายุครรภ์เพิ่มมากขึ้น โอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง ภาวะแทรกซ้อน สัญญาณอันตรายที่อาจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กทารกก็มีมากหากคุณแม่พบว่าตนเองเริ่มมีอาการแพ้ท้องและฝากครรภ์ล่าช้า วันนี้แอดจึงมี วิธีดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์ มาฝากแม่ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์ทุกๆ คน แนะนำ วิธีดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์ เพื่อสุขภาพและความปลอดภัย ทั้งแม่และลูก เมื่อคุณแม่เริ่มมีการตั้งครรภ์ในช่วงสามเดือนแรก จะเริ่มมีอาการแพ้ท้อง ซึ่งนั่นอาจจะพบความเสี่ยงหรือสัญญาณอันตรายที่ควรมาพบแพทย์ ยกตัวอย่างเช่น คุณแม่อาจจะมีอาการอาเจียนตลอดเวลา ไม่สามารถรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำได้ ริมฝีปากแห้ง อ่อนเพลีย ปัสสาวะออกน้อยลง ปัสสาวะเล็ดหรือปัสสาวะมีกลิ่นฉุนมากๆ เนื่องมาจากร่างกายขาดน้ำ รวมทั้งน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว อาการเหล่านี้อาจส่งผลต่อคุณแม่และเด็กทารกที่อยู่ในครรภ์ได้ จึงต้องรู้จักวิธีดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์ให้ถูกวิธี วิธีดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอกร่างกายเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ที่คุณแม่ควรรู้ นั่นคือ มดลูกจะมีขนาดใหญ่และหนาตัวมากขึ้น อาจจะมีอาการปวดหน่วงๆ เล็กน้อย ปากมดลูกและช่องคลอด เกิดการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนส่งผลให้มีเลือดออกและมีตกขาวมากขึ้น การเคลื่อนไหวของลำไส้ในระบบทางเดินอาหารลดลง อาจมีอาการเบื่ออาหาร ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียนหรือท้องผูก และกระเพาะปัสสาวะมีแรงดันที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มดลูกมีขนาดใหญ่และอาจจะมีปัญหาในการปัสสาวะบ่อย วิธีดูแลตัวเองขณะตั้งครรภมีวิธีการดังนี้ ด้านโภชนาการ คุณแม่ควรเน้นอาหารที่มีพลังงานจากสารอาหารครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีน เช่น […]
เคล็ดไม่ลับ… เพิ่มโอกาสการมีลูกแฝด ตั้งครรภ์ครั้งเดียวได้ถึงสอง
เรารู้ว่าคุณแม่ยุคใหม่กำลังต้องการความคุ้มอย่างถึงที่สุด อะไรจะประหยัดเวลาเท่ากับการตั้งครรภ์ครั้งเดียวได้ถึงสอง แถมยังเจ็บคลอดครั้งเดียว ใช้เวลารอบเดียว แล้วยังมีเจ้าตัวเล็กน่ารักมาคลอเคลียแบบแพ็คคู่ อันที่จริงแล้วด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เราสามารถ เพิ่มโอกาสการมีลูกแฝด เพิ่มอัตราความน่าจะเป็น ในการมีลูกแฝดได้ แนะนำ เคล็ดไม่ลับการ เพิ่มโอกาสการมีลูกแฝด เพิ่มอัตราความน่าจะเป็น ในการมีลูกแฝด ฝาแฝดมี 2 ประเภท แฝดแท้ ตามสถิติแล้วแฝดแท้ในธรรมชาติเป็นกรณีที่เกิดค่อนข้างยากมาก เพราะเกิดจากไข่ฟองเดียวกัน ได้รับการปฏิสนธิจากอสุจิตัวเดียวกัน แต่ระหว่างที่เกิดการแบ่งเซลล์ในช่วงแรก ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วนั้นก็จะแบ่งตัวออกเป็นสองฟอง ทำให้ได้เด็กสองคนที่หน้าตาเหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก ไม่เพียงแต่มีลักษณะเหมือนกัน แต่ยังมีดีเอ็นเอเดียวกัน ซึ่งอัตราการเกิดแฝดแท้นั้นอยู่ระหว่าง 3-4 ครั้ง ในจำนวนคุณแม่ 1,000 คน แฝดเทียม หรืออาจเรียกว่าฝาแฝดพี่น้อง เกิดจากคุณแม่ตกไข่ 2 ฟอง และได้รับการปฏิสนธิจากอสุจิ 2 ตัว ซึ่งฝาแฝดลักษณะนี้อาจเป็นเด็กชาย 2 คน เด็กหญิง 2 คน หรือเด็กชายและเด็กหญิงก็ได้ พวกเขาอาจมีลักษณะเหมือน หรือไม่เหมือนก็ได้ นั่นเป็นไม่ได้มีดีเอ็นเอเหมือนกัน ในความเป็นจริงแล้วเด็กทั้งคู่ก็เหมือนคู่พี่น้องทั่วไป ทว่าเกิดพร้อมกันเท่านั้นเอง ปัจจัยที่เพิ่มโอกาสการมีลูกแฝดตามธรรมชาติ พันธุกรรม ถ้าคุณมีสมาชิกในครอบครัว […]
นับถอยหลัง 30 วัน เตรียมพร้อมตั้งครรภ์ ทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ ของคุณแม่
คุณพร้อมที่จะเป็นคุณแม่แล้วใช่มั้ย การตัดสินใจมีลูกถือเป็นเรื่องท้าทายและบทบาทใหญ่สำหรับผู้หญิงเสมอ การวางรากฐานที่ดีให้ร่างกายลูกรักตั้งแต่ก้าวแรกของพัฒนาการ คุณแม่สามารถ เตรียมพร้อมตั้งครรภ์ ด้วยวิธีเหล่านี้ได้ เพื่อสร้างสุขภาพครรภ์ที่สมบูรณ์แข็งแรง 30 วัน เตรียมพร้อมตั้งครรภ์ เพื่อสร้างสุขภาพครรภ์ ที่สมบูรณ์แข็งแรง Days 1-7 หยุดการคุมกำเนิด เตรียมพร้อมตั้งครรภ์ ประการแรกคือ หยุดการคุมกำเนิดหมายถึงหยุดทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นห่วงอนามัย ถุงยางอนามัย ฯลฯ แต่ถ้าคุณแม่เลือกใช้วิธียาคุมกำเนิดทั้งฝังและรับประทาน อาจต้องถอยหลังไปไกลราว 2-3 เดือน แต่ว่าคุณแม่บางคนหยุดยาคุมก็ติดเลยในเดือนแรกก็มีนะ เริ่มทานวิตามินรวม บางครั้งเราก็ลืมเรื่องทานอาหารให้ครบหมู่ไปบ้าง การทานวิตามินรวมจึงสามารถช่วยอุดช่องว่างให้คุณแม่ได้ นอกจากนั้นยังมีสารอาหารที่สำคัญสำหรับช่วงก่อนคลอด นั่นคือกรดโฟลิค ควรรับประทาน 400 – 800 ไมโครกรัมต่อวัน ทานอาหารที่มีประโยชน์จำเอาไว้ให้ขึ้นใจว่า ไม่ว่าอย่างไรสารอาหารจากแหล่งอาหารจริงๆ ตามธรรมชาติ ย่อมดีที่สุดเสมอ สามารถช่วยให้ระบบต่างๆ ของร่างกายสมดุล โดยคุณแม่อาจพิถีพิถันมากขึ้นด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทออร์แกนิกส์ ออกกำลังกาย ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 4-5 ครั้งเป็นอีกวิธีที่ดี และควรใช้เวลาขั้นต่ำ 30 นาทีขึ้นไป โดยสามารถเลือกกิจกรรมได้ทุกประเภทตามที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นแอโรบิก จ็อกกิ้ง ปั่นจักรยาน หรือแม้แต่ปีนหน้าผาจำลอง […]