ในยุคแห่งเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าดังยุคปัจจุบันนี้ ได้คนต่างก็เข้าถึงเทคโนโลยีกันได้ง่ายๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ผู้ใหญ่ วัยรุ่น แม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆต่างก็สนใจเทคโนโลยีที่ทันสมัย จนบางครั้งพ่อแม่หลายคนเลี้ยงลูกให้ติดหน้าจอ โดยที่ไม่สนใจลูกขณะที่อยู่บนหน้าจอ จนทำให้เกิดผลเสียต่างๆตามมาภายหลัง วันนี้เราจึงจะพา พ่อแม่ยุคใหม่ ซึ่งเป็นยุคแห่งการก้าวไกลทางเทคโนโลยี แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก พาทุกท่านไปดูวิธีการเลี้ยงลูกไม่ให้ติดหน้าจอมากจนเกินไป จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลย วิธีการให้เด็กอยู่กับหน้าจอให้เหมาะสม ที่ พ่อแม่ยุคใหม่ ควรรู้ ในยุคสมัยนี้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกคน เพราะหากท่านเป็นผู้ที่ไม่ทันเทคโนโลยี ไม่ใส่ใจความก้าวหน้าในยุคสมัยใหม่ก็จะทำให้ท่านเป็นคนที่ไม่ทันเหตุการณ์ โดยเฉพาะปัจจุบันนี้เราจะเห็นพ่อแม่หลายคน นำเทคโนโลยีมาเลี้ยงลูก จนบางครั้งเด็กเกิดการติดหน้าจอ จนไม่สามารถเยียวยาได้ ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของเด็ก วันนี้เรามีวิธีแก้ปัญหาการติดหน้าจอของเด็ก ซึ่งจะมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไรบ้างนั้นไปดูกันเลย ในขณะที่เด็กดูหน้าจอโทรศัพท์ หรือหน้าจอเทคโนโลยีอื่นๆ ควรมีพ่อแม่อยู่ด้วยทุกครั้ง ควรที่จะสอนให้เด็กดูโทษและประโยชน์ของเทคโนโลยี เพื่อที่เขาจะได้รู้และไม่ติดหน้าจอจนเกินไป ในขณะที่เด็กอยู่หน้าจอ ควรที่จะดูระยะห่างระดับสายตากับหน้าจอโทรศัพท์ให้ดี ไม่ควรให้เด็กเข้าใกล้มากจนเกินไป เพราะจะทำให้เสียสายตาได้ในอนาคต จำกัดเวลาในการอยู่กับหน้าจอของเด็กๆอย่างเคร่งครัด ไม่แนะนำให้เด็กอยู่กับหน้าจอในเวลานานๆ เพราะจะทำให้เกิดการติดหน้าจอจนไม่สามารถเยียวยาได้ ควรหากิจกรรมอื่นๆให้เด็กทำด้วย ไม่ว่าจะเป็น อ่านหนังสือ เล่านิทาน ของเล่น หรือพาไปทำกิจกรรมนอกบ้านที่มีประโยชน์สำหรับเด็ก การอยู่กับหน้าจอแต่ละครั้งของเด็ก ควรที่จะเลือกสิ่งดีๆให้ลูกของตนเองดู ไม่ว่าจะเป็น สื่อการเรียนการสอนของเด็ก การ์ตูนที่บอกเนื้อหาสาระ เป็นต้น […]
Tag: พัฒนาการเด็ก
อ่านหนังสือ ให้เด็กฟังกับเทคนิคการอ่าน ส่งเสริมพัฒนาการทารก
ถึงแม้ว่าเด็กจะยังอ่านหนังสือไม่ออก ฟังไม่เข้าใจ แต่รู้หรือไม่ว่าการ อ่านหนังสือ ให้ลูกฟังจะเป็นตัวกระตุ้นพัฒนาการได้เป็นอย่างดี ได้มีผลงานวิจัยรับรองออกมาแล้วว่าการอ่านหนังสือให้เด็กฟังจะสามารถส่งเสริมพัฒนาการของเด็กได้เป็นอย่างดี ซึ่งการอ่านหนังสือให้เด็กทารกฟังนั้นสามารถอ่านตั้งแต่อยู่ในครรภ์ได้เลย เพราะเขาจะสามารถรับรู้และซึมซับสิ่งที่เราอ่านให้กับเขาฟัง จนทำให้เขาเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่มีพัฒนาการที่ดี แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปดูเทคนิคของการอ่านหนังสือให้เด็กฟัง จะมีวิธีการอย่างไรบ้างนั้นไปดูกันเลย เทคนิคการ อ่านหนังสือ ให้เด็กฟังให้ประสบความสำเร็จ สำหรับคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่ต้องการจะส่งเสริมพัฒนาการของลูกตนเอง เรามีวิธีการอ่านหนังสือให้ทารกฟังมาให้ทุกท่านได้ดู จะเป็นวิธีที่สามารถเสริมพัฒนาการของลูกท่านได้ดีเพียงใดนั้นไปดูกันเลย หัดให้เด็กอ่านหนังสือด้วยตนเอง การฝึกหัดให้เด็กรู้จักรับในการอ่านเป็นสิ่งที่ดี โดยเริ่มตั้งแต่เขายังไม่สามารถอ่านหนังสือออก โดยการให้เขาจับหนังสือไปมาด้วยตนเอง โดยให้อิสระแก่เขาในการอยู่กับหนังสือที่เราเตรียมมาไว้ให้ สิ่งเหล่านี้จะซึมซับเขาตั้งแต่ยังเด็กๆ 2.อ่านหนังสือออกเสียงให้ลูกฟังเป็นประจำ การอ่านหนังสือออกเสียงจะทำให้เด็กสามารถรับรู้ถึงสิ่งที่เรามอบให้เขาได้ เขาจะจดจำและสามารถรับรู้กับสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยการอ่านหนังสือชี้ภาพประกอบและออกเสียงไปตามตามกันจะทำให้เขาเป็นเด็กที่มีพัฒนาการที่ว่องไว 3.เลือกหนังสือที่หลากหลายมาให้เขาได้อ่านหรือดู การเลือกเนื้อหาของหนังสือที่จะนำมาให้เด็กดูมีความสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากหนังสือนิทานที่ใครหลายคนนำมาให้เขาดูแล้ว เรื่องราวนิตยสารต่างๆ สาระน่ารู้ต่างๆ ก็สามารถนำมาให้เขาเปิดหรือดูได้ หรืออาจจะเป็นเมนูอาหาร ก็จะดีเป็นอย่างยิ่งเพราะเขาจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆด้วยนั่นเอง 4.ฝึกการเรียนรู้ด้วยการอ่านหนังสือด้วยกัน การพาเขาทำกิจกรรมอ่านหนังสือไปพร้อมกับพ่อแม่จะเพิ่มความผูกพันและเพิ่มทักษะในการอ่านหนังสือให้กับเขาได้เป็นอย่างดี จะเป็นช่วงเวลาที่สามารถสร้างความผูกพันและสร้างความรู้ให้แก่เขาได้อย่างมาก เขาจะได้รับความรัก ความรู้ ไปพร้อมพร้อมกัน และนี่เป็นวิธีการเสริมพัฒนาการสำหรับลูกน้อยที่ท่านควรนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นการเสริมทักษะในการอ่านหนังสือให้กับเด็กตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อเติบโตขึ้นมาเขาจะมีนิสัยชอบการอ่านและเรียนรู้สิ่งต่างๆได้เร็ว รับรองว่าหากท่านนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ลูกน้อยของท่านจะเติบโตมาด้วยความเก่งและความเข้าใจอย่างยิ่ง
รับประทานอาหารยาก สำหรับเด็กน้อยมีวิธีจัดการได้ตามนี้
ปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนพบเจอกันอยู่บ่อยครั้งก็คือ การที่ลูกน้อยของท่าน รับประทานอาหารยาก หรือเบื่ออาหาร ในแต่ละวันจะมีการหลอกล่อเพื่อที่จะให้ลูกรับประทานอาหารให้ได้มากที่สุด แต่วิธีเหล่านี้ก็ไม่สามารถทำได้ทุกครั้ง ซึ่งบางครั้งจะมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เด็กเบื่ออาหาร ไม่ว่าจะเป็นเมนูที่ซ้ำกันแต่ละมื้อ การรับประทานอย่างอื่นมากจนเกินไป ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูวิธีการแก้ปัญหาให้ลูกน้อยของคุณกลับมารับประทานอาหารให้มากขึ้น แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก จะมีวิธีการใดบ้างนั้นไปดูกันเลย เทคนิคในการทำให้ลูกน้อยเลิก รับประทานอาหารยาก การรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเด็ก พ่อแม่ควรที่จะกระตุ้นให้เด็กรับประทานอาหารให้มากขึ้น ซึ่งวิธีที่จะทำให้เด็กรับประทานอาหารให้มากขึ้น ไม่เบื่ออาหาร มีวิธีการดังต่อไปนี้ เลือกเมนูอาหารที่มีความแปลกใหม่ น่ารับประทาน การเบื่ออาหารของลูกน้อยของคุณอาจจะเกิดจากเมนูอาหารที่ซ้ำจำเจจนเกินไป ทำให้เด็กเบื่ออาหารได้ ซึ่งการเลือกเมนูให้แปลกใหม่ ทำออกมาให้น่ารับประทาน เป็นสิ่งที่เราจะมาแนะนำท่าน ด้วยการนำเอาเมนูสำหรับเด็กมาทำเป็นรูปการ์ตูนต่างๆให้มีสีสันน่ารับประทาน สิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นการอยากอาหารให้แก่ลูกน้อยของคุณได้มากขึ้น 2.หาสิ่งต่างๆที่เด็กให้ความสนใจมาหลอกล่อในการรับประทานอาหาร นอกจากจะมีอาหารที่น่ารับประทานแล้ว การนำสื่อต่างๆมาใช้ในการหลอกล่อเด็กให้รับประทานอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเล่านิทาน การเปิดการ์ตูนให้เด็กดูซึ่งก็ต้องเป็นการ์ตูนที่มีสาระน่ารู้ การพูดคุยหยอกล้อ 3.การมีรางวัลมาให้เด็กหลังจากรับประทานอาหาร เด็กเล็กๆมักอยากจะได้รางวัลจากผู้ปกครอง หากท่านอยากให้ลูกรับประทานอาหารให้มากขึ้นควรนำสิ่งต่างๆมาเป็นรางวัลให้กับพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นขนม ของเล่น หรือการพาไปในสถานที่ต่างๆที่เขาอยากไป สิ่งเหล่านี้จะช่วยคุณได้เป็นอย่างมาก และนี่จึงเป็นวิธีการที่จะช่วยทำให้ลูกน้อยของคุณไม่เบื่ออาหารอีกต่อไป เป็นวิธีการที่ใครหลายคนนำมาใช้แล้วได้ผล โดยเฉพาะเมนูอาหารที่น่ารับประทาน หากมีเมนูที่แปลกใหม่ มีสีสันที่น่าตื่นตาตื่นใจให้กับเด็กๆ รับรองว่าเขาจะรับประทานอาหารได้มากขึ้นไม่เบื่ออาหารอีกต่อไป
หลอกลูกให้กลัว มีผลกระทบกับลูกที่แม่ต้องระวัง
เมื่อเร็วๆ นี้มีกระแสที่ค่อนข้างรุนแรงในโลกโซเชียล กับการ หลอกลูกให้กลัว ผีที่อยู่ในแอพพลิเคชัน ซึ่งในช่วงแรกก็ดูเหมือนจะเป็นความสนุกสนานของผู้ชมทั่วไป จนกระทั่งมีคนกลุ่มหนึ่งออกมาแย้งว่าการทำแบบนี้จะสร้างแผลในใจของลูกไปอีกนาน แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก วันนี้เราจึงอยากจะมาขยายความประเด็นนี้ให้คนเป็นแม่ได้ตระหนักมากขึ้น ว่าสิ่งเล็กๆ ที่เรามองเป็นเรื่องตลกนั้น อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อจิตใจของเด็กคนหนึ่งไปอีกหลายสิบปี เมื่อ หลอกลูกให้กลัว แล้วความกลัวไม่หายไป เด็กๆ นั้นมีประสบการณ์ชีวิตน้อยกว่าผู้ใหญ่อย่างเรา สิ่งที่หลอกลูกให้กลัวนั้น ไม่ว่าจะเป็นผี ปีศาจ สัตว์ หรือแม้แต่อาชีพยอดนิยมอย่างตำรวจ เด็กไม่สามารถแยกได้จริงๆ ว่ามันเป็นเรื่องตลก เป็นเพียงคำพูดที่ได้ยินแล้วก็โยนทิ้งไป พวกเขาจำฝังใจมากกว่าที่คิด เพราะมันเป็นสิ่งใหม่และครั้งแรกที่รู้จักมันก็ถูกปลูกฝังทันทีว่ามันน่ากลัว และความกลัวนั้นก็จะไม่หายไปแม้ว่าเขาจะโตแล้วก็ตาม หลอกลูกให้กลัวเลยทำให้กลายเป็นคนไม่มั่นใจ มีหลายครั้งที่ความกลัวไม่ได้กระทบกับสิ่งที่เราหลอกลูกให้กลัวเท่านั้น แต่มันสิ่งผลเป็นลูกโซ่ไปถึงความนึกคิดด้านอื่น จากเด็กคนหนึ่งที่ยังสดใสและพร้อมเปิดใจรับทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามา มองว่าการเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกสนาน ความกลัวจะทำให้เขาหวาดหวั่นกับการเผชิญหน้า ด้วยไม่รู้ว่าสิ่งนั้นจะน่ากลัวเหมือนบางอย่างที่เคยเจอมาหรือไม่ หลอกลูกให้กลัวเป็นการปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ สำหรับเด็กๆ แล้วทุกอย่างสามารถเป็นไปได้อิสระตามที่ใจของเขาคิด แต่เมื่อไรที่เราหลอกลูกให้กลัว พวกเขาจะยึดติดกับสิ่งที่เราบอก และตีกรอบให้สิ่งนั้นเชื่อมโยงกับความน่ากลัว อย่างเช่นการหลอกผีด้วยภาพลักษณ์อันสยดสยอง ใต้จิตสำนึกจะบอกว่าผีคือสิ่งที่ไม่น่ามองและไม่อยากเจอ ทั้งที่เด็กหลายคนก่อนได้ยินเรื่องผีจากผู้ใหญ่ พวกเขามีผีในจินตนาการที่กว้างมาก อาจเป็นผีที่น่ารักและเป็นมิตรก็ได้
เด็กก้าวร้าว เกิดจากอะไรที่พ่อแม่ควรรู้
พ่อแม่หลายคนเอาแต่บ่นลูกของตัวเองว่าเป็น เด็กก้าวร้าว เป็นเด็กนิสัยไม่ดีที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา โดยที่ไม่เคยหันมองตัวเองเลยว่าได้กระทำอะไรลงไปบ้าง สิ่งที่คิดว่าเล็กน้อย ใครๆ เขาก็ทำกันแบบนี้ ล้วนทำร้ายเด็กมานับไม่ถ้วนแล้ว เพื่อไม่ให้พ่อแม่มือใหม่ทำพลาดเพิ่มเติมอีก แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก วันนี้เราจึงนำสิ่งต้องห้ามที่จะส่งผลกระทบต่อนิสัยของลูกมาฝากกัน นอกจากเฝ้าจับผิดลูกแล้วก็ควรเฝ้าสังเกตตัวเองด้วยเช่นกัน เด็กก้าวร้าว เพราะพ่อแม่แสดงให้เห็นเป็นประจำ เคยได้ยินบ้างไหมว่า ไม่ว่าตอนวัยรุ่นเราจะเป็นคนแบบไหน เป็นเด็กก้าวร้าว เป็นเด็กเรียบร้อย หรือเป็นเด็กอัธยาศัยดี ครั้นมีลูกแล้วจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองครั้งใหญ่ โดยคิดถึงผลกระทบที่อาจมีต่อลูกเป็นหลัก พฤติกรรมที่เอาแต่โวยวาย ทะเลาะโต้เถียงกัน ทำลายข้าวของ จนกระทั่งทำร้ายร่างกายกัน ล้วนเป็นภาพจำที่เด็กจะทำตามอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาเรียนรู้ผ่านการมองเห็นมากกว่าการฟังคำสอน เด็กก้าวร้าวเพราะถูกพ่อแม่กดดันอย่างหนัก จะเรียกว่าเป็นอีโก้อย่างหนึ่งของคนเป็นพ่อแม่ก็ไม่ผิดนัก เพราะบ้านเรามักมีคำยอดฮิตประมาณว่าลูกเป็นอย่างไรก็ต้องดูพ่อแม่ จึงเกิดปัญหาเด็กก้าวร้าวเพราะพ่อแม่กดดันเยอะมาก ต้องการให้ลูกเป็นลูกตัวอย่างให้กับคนอื่น ต้องการให้ลูกเรียนดีกิจกรรมเด่น อยู่ในโอวาสและทำทุกอย่างประหนึ่งว่าลูกไม่มีสิทธิ์ใช้ชีวิตของตัวเอง แรกๆ มันอาจไม่มีปัญหาอะไร แต่พอถึงจุดหนึ่งทุกอย่างจะระเบิดออกมาในรูปของความก้าวร้าวรุนแรง เด็กก้าวร้าวเพราะพ่อแม่ทำให้ลูกไม่เคารพรัก พ่อแม่ส่วนใหญ่คิดว่าแค่สถานะอย่างเดียวก็เพียงพอที่ลูกจะเคารพรัก ด้วยว่าพ่อแม่นั้นมีบุญคุณล้นพ้น แต่ท้ายที่สุดกลับไม่รู้ว่าทำไมลูกถึงกลายเป็นเด็กก้าวร้าวไปได้ ปัญหาก็คือพ่อแม่ไม่สามารถสร้างความเคารพรักที่เกิดจากใจเด็กอย่างแท้จริงได้ เอาแต่ใช้อำนาจข่มไปอย่างนั้น ในใจลึกๆ ของลูกจึงลดทอนความรักและความเคารพไปทีละน้อย จนวันหนึ่งก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องใส่ใจอะไรอีกต่อไป
เด็กอัจฉริยะ ถ้าอยากให้ลูกเป็นต้องดูแลแบบนี้
สิ่งหนึ่งที่คุณแม่ทุกคนต้องการ ก็คือการเสริมสร้างพัฒนาการทุกด้านของลูกน้อยให้กลายเป็น เด็กอัจฉริยะ ซึ่งคำว่าอัจฉริยะในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการเก่งกาจกว่าคนอื่น แต่เป็นการผลักดันศักยภาพทั้งหมดของลูกให้เด่นชัดออกมามากที่สุด เพราะมันจะเป็นผลดีต่อการเติบโตและดำเนินชีวิตของเขาในอนาคต แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก ประเด็นก็คือเรื่องนี้ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ในช่วงเวลาสั้นๆ คุณแม่ต้องเตรียมการและลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ ดังต่อไปนี้ 7 ปีแรกคือโอกาสทองของ เด็กอัจฉริยะ มีหลายงานวิจัยยืนยันตรงกันว่า บุคลิกและความสามารถที่โดดเด่นของเด็กอัจฉริยะ จะสร้างได้ง่ายและพัฒนาได้เร็วที่สุดในช่วง 7 ปีแรก จังหวะนี้ไม่ว่าเด็กได้เรียนรู้สิ่งใดก็จะเข้าใจและต่อยอดได้อย่างรวดเร็ว แต่เด็กไม่สามารถจะค้นหาสิ่งที่ดีต่อตัวเขาได้เอง คุณแม่จึงต้องทุ่มเทเวลาเกือบทั้งหมดเพื่อช่วยลูกค้นหาสิ่งที่เหมาะสม อาจใช้วิธีการสังเกตจากสิ่งที่ลูกสนใจเป็นเวลานานได้ หรือกิจกรรมที่ลูกชอบทำมากเป็นพิเศษก็ได้เหมือนกัน กีฬาคือปัจจัยที่ขาดไม่ได้ของเด็กอัจฉริยะ วัยเด็กเป็นวัยที่มีพลังงานและมีสมรรถภาพทางร่างกายสูงอยู่แล้ว คุณแม่ที่ต้องการเสริมความเป็นเด็กอัจฉริยะให้แก่ลูกจึงต้องนำจุดเด่นตรงนี้มาใช้ประโยชน์ โดยการเอาพลังงานสูงเหล่านั้นมาฝึกทักษะทางกีฬา ไม่ใช่การฝึกซ้อมเพื่อแข่งขัน แต่เป็นการฝึกเพื่อให้เกิดความสนุก เด็กๆ จะรู้สึกท้าทาย และได้ฝึกทักษะหลายอย่างพร้อมกัน เช่น ทักษะการตัดสินใจ การจัดระเบียบร่างกาย ทักษะการเข้าสังคม ทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เป็นต้น หนังสือและสื่อความรู้คือแหล่งข้อมูลของเด็กอัจฉริยะ ข้อผิดพลาดอย่างหนึ่งของคนเป็นแม่ก็คือ ตีกรอบของความเป็นเด็กอัจฉริยะของลูกมากเกินไป จนต้องคัดกรองทุกสื่อที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ ภาพยนตร์ หรือแม้แต่เพลงที่ฟัง ซึ่งในแง่มุมความปลอดภัยก็ถือว่าดีใช้ได้ แต่ในภาพรวมจะทำให้เด็กมีความคิดที่จำกัด วันหนึ่งเขาก็ต้องอยากรู้อยากเห็น และสุ่มเสี่ยงที่จะเสพทุกอย่างด้วยแนวความคิดที่ผิดเพี้ยน ทางที่ดีกว่าจึงเป็นการเปิดกว้างให้เขาเข้าถึงสื่อได้ โดยมีเราแนะนำอยู่อย่างใกล้ชิด
การสอนลูก มีวิธีเกี่ยวกับความประพฤติที่ได้ผลดีเกินคาด
เคยมีปัญหากับ การสอนลูก บ้างไหม เคยคิดไหมว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ทำได้ยากจริงๆ ทำไมสิ่งที่คุณพ่อหรือคุณแม่บอกไป ลูกถึงไม่เข้าใจและไม่ยอมทำตาม ต่อให้ทำตามก็ไม่ติดเป็นนิสัย ทำได้เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น เหตุผลไม่ได้เป็นเพราะลูกของคุณแตกต่างจากเด็กคนอื่น และก็ไม่ได้เป็นความผิดของเด็กด้วยที่ทำตามคำสอนไม่ได้ มันผิดที่เราเลือกวิธีการสอนไม่ถูกต้องมากกว่า แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดีๆ มาฝาก รับรองว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะง่ายขึ้นผิดหูผิดตาทีเดียว การสอนลูก ด้วยการทำให้ดู ต่อให้พูดจนปากฉีกไปถึงรูหู คุณก็ไม่มีทางสอนลูกให้เป็นไปอย่างที่ต้องการได้ หากตัวคุณเองไม่ได้ทำแบบนั้น เช่น สอนให้ลูกเป็นคนที่ตรงต่อเวลา แต่ตัวคุณไม่เคยตรงเวลากับลูกหรือกับคนอื่นเลย สอนให้ลูกไม่โกหกแต่คุณก็โกหกอยู่เสมอในเรื่องเล็กน้อย เป็นต้น จำไว้ว่าเด็กๆ นั้นเรียนรู้ด้วยการทำตามไม่ใช่การฟัง สอนลูกด้วยการอธิบายเหตุผล อย่าคิดไปเองว่าพวกเขายังเด็กและไม่รู้เรื่องอะไร จริงอยู่ว่าเขาอาจไม่รู้สิ่งรอบตัวเท่ากับคุณ แต่เขารู้ถึงสิ่งที่คุณจะอธิบายแน่นอน ดังนั้นจึงต้องสอนลูกด้วยการอธิบายสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลเสมอ ว่าเขาต้องทำอย่างนั้นเพราะอะไร เช่น ต้องไม่พูดคุยกับคนแปลกหน้าเพราะมันอาจเป็นอันตราย คนอื่นที่เราไม่รู้จักเขาอาจคิดไม่ดีได้ เป็นต้น เมื่อมีเหตุผลรองรับ เด็กจะเห็นความสำคัญมากกว่าฟังคำสั่งอย่างเดียว สอนลูกด้วยการให้รางวัล แนวคิดที่ว่ารักวัวให้ผูก รักลูกให้ตีนั้น มันค่อนข้างจะโบราณไปสักหน่อย คุณควรสอนลูกด้วยการให้รางวัลมากกว่าจะตำหนิ เพราะการถูกตำหนิจะนำไปสู่การต่อต้านในท้ายที่สุด ในทางกลับกันถ้าคุณเลือกชมให้สิ่งที่ดีงาม และชมเมื่อลูกๆ ได้ทำบางอย่างที่เป็นประโยชน์จริงๆ พวกเขาจะเรียนรู้ว่าต้องทำสิ่งนี้เพิ่มมากขึ้นอีก เพื่อให้ได้รับคำชมมากขึ้น
อาหารเสริม สำหรับเด็ก มันจำเป็นหรือไม่
หากพูดถึงในเรื่องของ อาหารเสริม นั้น สำหรับเด็กแล้วก็ดูยังไม่ค่อยมีความจำเป็นสักเท่าไร เพียงแต่ว่าหากเป็นสารอาหารที่มีจากพืชและผักผลไม้ที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งใด ๆ ถึงจะเหมาะกับพวกเขามากกว่า แต่ก็ต้องดูตามความเหมาะสมแต่ละในช่วงวัยด้วยเหมือนกัน แล้วยิ่งถ้าเป็นอาหารเสริมที่มีการปรุงแต่งผ่านพวกขบวนการต่าง ๆ ก็ไม่แนะนำให้เด็กทานสิ่งเหล่านี้ เพราะมันอาจจะมีผลระยะยาวกับตัวเด็กเองได้ อย่างพวกแคลเซียมอัดเม็ด หรือ พวกวิตามินซี วิตามินเหล่านี้เด็ก ๆ สามารถรับสารอาหารพวกนี้ได้จากการทานอาหารในหมู่ต่าง ๆ ซึ่งมันจะดูดซึมได้ดีกว่าการทานพวกวิตามินสังเคราะห์ทั่วไป แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก อีกทั้งอาหารเสริมเหล่านี้ก็ไม่มีความจำเป็นกับเด็กเล็กมากนัก โดยในวัยก่อนขวบปีแรกอาหารหลักส่วนใหญ่ก็จะเป็นนม และ อาหารสำหรับเด็กเล็กเพียงเท่านั้นเอง อาหารเสริม สำหรับเด็ก ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับลูกเรา โดยอาหารเสริมสำหรับเด็กนั้น หากเราอยากจะเสริมให้ลูกน้อยก็ควรดูในเรื่องของช่วงวัยด้วย เพราะในแต่ละวัยนั้นพวกเขาก็ต้องการพวกวิตามินต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป อย่างเริ่มเข้าสู่วัยเก้าเดินนั้น พวกโปรตีนและแคลเซียมก็ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมาก ในการช่วยสร้างระบบกล้ามเนื้อไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ ต่างก็ต้องการพวกวิตามินเหล่านี้แทบทั้งสิ้น แต่เราสามารถหาได้จากพวกเนื้อสัตว์และนมซึ่งพวกนี้ก็ถือว่าเป็นอาหารของเด็กในวัยนี้อยู่แล้ว อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายและช่วยเสริมสร้างร่างกายให้เจริญเติบโตให้สมวัยนั่นเอง อีกทั้งพวกอาหารเสริมแบบผ่านการสังเคราะห์นั้นก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป และจากงานวิจัยหลาย ๆ ฉบับไม่ว่าจะเป็นของประเทศไทย หรือ ต่างประเทศ ก็ไม่แนะนำให้เด็กเล็กทานพวกอาหารเสริมที่เป็นการสังเคราะห์ขึ้นมา เพราะมันจะไม่ดีต่อระบบการย่อยของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นวิตามินแบบน้ำ หรือ อัดเม็ด ก็ควรหลีกเลี่ยงแล้วเปลี่ยนมาเป็นวิตามินที่ได้จากธรรมชาติแทนน่าจะดีกว่า
วิธีการดูแลเด็ก ทารกแรกเกิดที่คุณแม่ต้องรู้
เรามีคำแนะนำ วิธีการดูแลเด็ก ทารกแรกเกิดที่คุณแม่ควรรู้ บทความนี้เป็นประโยชน์ให้กับคุณแม่มือใหม่ได้ดีเลยค่ะ ใกล้ที่กำลังใกล้คลอดแล้วก็ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมทั้งสุขภาพจิตและวิธีการดูแลเด็กแรกเกิดให้ถูกต้องด้วยนะค่ะ เพราะคุณแม่บางคนหลังคลอดจะมีสภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ทำให้เป็นปัญหาที่หนักพอตัว การเตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่เนินๆจะดีกว่าแน่นอนค่ะ แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก งั้นเรามาอ่านบทความจากทางด้านล่างให้จบกันเลยนะค่ะ กับการดูแลเด็ก แรกเกิด แนะนำ วิธีการดูแลเด็ก แรกเกิดที่ถูกวิธี ให้กินนมแม่ เป็นอาหารมื้อแรกที่ดีที่สุดของลูกค่ะ เพราะนมแม่มีประโยชน์ และมีสารอาหารที่ดีและครบถ้วนมากที่สุด ช่วยต้านทานโรคได้เป็นอย่างดี แนะนำให้ลูกกินนมแม่ 6 เดือนขึ้นไป แล้วค่อยเสริมด้วยอาหารแบบอื่น เป็นอาหารที่ทานคู่กับน้ำนมแม่ได้ไปจน 2 ขวบ รับรองว่าลูกน้อยมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงมากเลยค่ะเจริญวัยตามช่วงเวลาที่ดี การดูแลเด็ก แรกเกิดต้องนอนหลับให้เพียงพอ จะทำให้เขาพัฒนาสมองและร่างกายได้แบบเต็มที่ การนอนวันละ 18 -20 ชั่วโมง คือการนอกตามชั่วโมงที่ดีที่สุด ช่วงดึกๆ ลูกจะร้องกินนมบ่อยเพราะช่วงกลางวันเขาจะนอนเยอะช่วงเวลานี้คุณแม่เตรียมนอนตามเลยค่ะได้เก็บแรงไว้ตอนเขาตื่น การทำความสะอาดสะดือ ตรงนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่คุณแม่หลายคนไม่กล้าทำความสะอาด เพราะกลัวลูกเจ็บบาง หากคุณแม่ไม่รักษาความสะอาดสะดือลูกติดเชื้อได้ง่ายเลยค่ะ ดูแลโดยใช้น้ำเกลือเช็ดทำความสะอาด และทางรพจะมียาให้ทา เช้าเย็น ภายใน 7-10 วันสะดือจะหลุดออก ง่ายขึ้นค่ะ การอาบน้ำให้กับเด็กแรกเกิด ต้องอาบน้ำที่มีอุณหภูมิที่พอดี ไม่อาบน้ำเย็นเกินไป และไปอาบน้ำร้อนเกินไป […]
ปัญหาในการเลี้ยงลูก สำหรับเด็ก4ขวบมีมีวิธีการดูแลแบบไหนบ้าง
บทความนี้เป็นบทความที่เป็นประโยชน์ให้กับคุณแม่ที่กำลังประสบ ปัญหาในการเลี้ยงลูก ที่อยู่ในช่วงวัย 4 ขวบ ได้ดีเลยค่ะเพราะแต่ละช่วงการเติบโตของเขาจะมีการพัฒนาและมีอารมณ์ที่ต่างกันไป คุณแม่ต้องเตรียมความพร้อมและรับมือให้ดี วันนี้เรามีวิธีการดูแล เด็กที่ถูกต้องมาฝากค่ะ บทความนี้จะทำให้คุณแม่มีทางออก บางที่เราเป็นคุณแม่ที่ต้องรับหน้าที่หลายอย่าง แม่บางคนต้องทำงานนอกบ้านอาจะดูแลลูกไม่เต็มที่ก็ต้องมี ตัวช่วยต่างๆ แม่และเด็ก การเลี้ยงลูก พัฒนาการเด็ก เพื่อการพัฒนาที่ดีกับลูกให้มากที่สุดด้วยนั่นเองค่ะ วิธีการดูแลเด็ก 4 ขวบที่เราแนะนำแก้ไข ปัญหาในการเลี้ยงลูก การเลี้ยงดูในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญมากเพราะเด็กกำลังจำและจะทำตามคุณแม่และคุณพ่อ ต้องใส่ใจเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็น ด้านอารมณ์ การพูดจาที่คุณพ่อและคุณแม่ต้อง พูดเพราะๆ เพราะหากเลือกพูดคำหยาบไป จะส่งผลให้ลูกทำตามเลยค่ะ เป็นการดูแล ด้านนิสัยและอารมณ์ที่คุณแม่ต้องคอยสอนและรับมือด้วยนั่นเองค่ะ เสริมทักษะ ด้วยการเตรียมความพร้อมการไปโรงเรียน เช่นพาเขาไปวิ่งเล่นและเดินเล่นบาง ในสนามเด็กเล็กต่างๆ การฝึกวาดภาพและระบายสี ช่วยส่งเสริมให้เขามีความคิดความอ่านที่ดี สิ่งนี้คุณแม่ค่อยๆ ฝึกได้เลยค่ะ เป็นการดูแลเด็กช่วงวัยที่กำลังจำเลยค่ะ วิธีการดูแล ด้านส่งเสริมอนามัยที่ถูกต้อง ให้เด็กๆ รู้จักการอาบน้ำ การแปรงที่ถูกวิธี การนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 11-12 ชั่วโมงต่อวัน การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่การทานนมเสริม ให้ถูกหลักและการนอนกลางวัน การดูจอสื่อสารทุกชนิดไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน วิธีการดูแล […]