Sunday, December 03, 2023
คุณแม่มือใหม่ ปัญหาและวิธีการแกไข้ สุขภาพ เรื่องน่ารู้

คุณแม่ไม่ต้องตกใจ .. 5 อาการของคนตั้งครรภ์ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อย

เป็นปกติที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์จะมีความกังวลใจกับอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์ แต่เนื่องจากช่วงท้องทั้งร่างกายและอารมณ์มักมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกาย จนบางครั้งอาจมีอาการแปลก ๆ ที่จะพบเจอได้ในเฉพาะคนตั้งครรภ์ ซึ่งเราจะพาคุณแม่ไปดูว่ามีอาการอะไรบ้างที่มักจะเกิดขึ้นกับคนตั้งครรภ์ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อย ซึ่งคงจะช่วยคลายกังวลในใจไปได้มาก เพราะถึงจะเกิดอาการเหล่านี้ขึ้น แต่หากไม่ได้เป็นหนักมากก็ขอให้วางใจได้ในระดับหนึ่งว่าเป็น อาการของคนตั้งครรภ์ ที่จะต้องพบเจอนะ อาการของคนตั้งครรภ์ ที่คุณแม่ทุกคนต้องเจอ ปัสสาวะบ่อย เนื่องจากการขยายตัวของมดลูก เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของลูกน้อยภายในครรภ์ จึงทำให้มดลูกมีการเบียดกระเพาะปัสสาวะ ส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะมีพื้นที่กักเก็บน้ำได้น้อยลง ซึ่งถึงเป็น อาการของคนตั้งครรภ์ ที่พบได้ในคนตั้งครรภ์ตั้งแต่เริ่มท้อง และจะยิ่งหนักขึ้นช่วงใกล้คลอด แต่ถึงอย่างไรคุณแม่ก็ห้ามหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำ และอั้นปัสสาวะเด็ดขาด เพราะอาจทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ นอนกรน อาการของคนตั้งครรภ์ เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับคุณพ่อสักเล็กน้อย ที่อยู่ ๆ ภรรยาที่ไม่เคยนอนกรนมาก่อน มีอาการนอนกรนเมื่อตั้งท้อง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อยในคนตั้งครรภ์ เพราะร่างกายจะขยายมากกว่าปกติ ทำให้หลอดลมมีขนาดเล็กลง การหายใจด้วยจมูกอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการรับออกซิเจน จึงต้องอาศัยการหายใจทางปากร่วมด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดเสียงกรนได้นั้นเอง เหงื่อออกมากกว่าปกติ นับเป็นอีกหนึ่ง อาการของคนตั้งครรภ์ ที่คุณแม่มักกังวลใจ เมื่อก่อนท้องเป็นคนไม่ค่อยมีเหงื่อออกหากอยู่ในห้องปกติ แต่พอท้องรู้สึกว่าตนเองเหงื่อออกมากกว่าผิดปกติเป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นเป็นเพราะร่างกายของคนตั้งครรภ์มีการเผาผลาญพลังงานมากขึ้น เพื่อใช้ในการสร้างเสริมร่างกายของทารกภายในครรภ์ ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่ หรือลูกน้อยในครรภ์แต่อย่างใด เพียงแต่อาจก่อให้เกิดความไม่สบายตัวเพิ่มขึ้น […]

Read More
คุณแม่มือใหม่ ปัญหาและวิธีการแกไข้ สุขภาพ เรื่องน่ารู้

3 สาเหตุคุณแม่ตั้งครรภ์ผมร่วง ความเปลี่ยนแปลงขณะตั้งครรภ์ ที่ไม่เป็นอันตราย

คุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลายอาจจะพบสิ่งผิดปกติหรือความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เกิดขึ้นหลังจากที่รู้ตัวว่าทั้งครรภ์ ทั้งนี้มีทั้งความเปลี่ยนแปลงที่เป็นปกติกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเป็นอันตรายได้ ทั้งนี้คุณแม่ตั้งครรภ์บางคนอาจพบว่าตัวเองมีอาการผมหลุดร่วงมากขึ้นกว่าปกติ จนเกิดความสงสัยว่าที่เราผมร่วงนั้นเป็นเพราะอะไรกันแน่ และจะมีผลกระทบอะไรต่อลูกน้อยหรือไม่? เพื่อความสบายใจของคุณแม่ทั้งหลายเราได้รวม 3 สาเหตุคุณแม่ตั้งครรภ์ผมร่วง ความเปลี่ยนแปลงขณะตั้งครรภ์ ที่ไม่เป็นอันตราย ได้รู้และเข้าใจถึงสาเหตุหลักๆ ว่าเกิดมาจากอะไร รู้และเข้าใจ 3 สาเหตุคุณแม่ตั้งครรภ์ผมร่วง 1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน – สาเหตุคุณแม่ตั้งครรภ์ผมร่วง เมื่อคุณแม่เข้าสู่ช่วงตั้งครรภ์ฮอร์โมนของคุณแม่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ มากมาย บางคนอาจมีผิวพรรณคล้ำขึ้น เกิดสิวจากที่ปกติไม่เคยมี เกิดฝ้ากระผิวแพ้ง่าย หรือในบางคนก็อาจผมร่วงได้ เพราะเมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ฮอร์โมนจะได้หยุดการเจริญเติบโตของเส้นผมทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้ง่ายขึ้น ดังนั้นช่วงนี้ควรงดใช้สารเคมีใด ๆ ที่เกี่ยวกับผม งดการย้อมผมหรือกัดสีไปก่อนรอให้คลอดบุตรแล้วจึงกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ รวมถึงการใช้ครีมบำรุงและครีมอาบน้ำต่าง ๆ ที่มีสารเคมีแรงก็ควรหยุดใช้ไปก่อน เพราะช่วงนี้คุณแม่ค่อนข้างอ่อนแอกว่าปกติ 2. ขาดสารอาหารบางชนิด – สาเหตุคุณแม่ตั้งครรภ์ผมร่วง เป็นไปได้ว่าเมื่อตั้งครรภ์แล้วลูกของเรานำสารอาหารไปใช้จนทำให้เราขาดสารอาหารได้หากเรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ไม่เพียงพอ ดังนั้นเมื่อสังเกตว่าผมร่วงมากขึ้นควรรับประทานวิตามินให้มากขึ้นเพื่อตัวลูกน้อยและสุขภาพของตัวคุณแม่เอง วิตามินที่ขาดเช่นวิตามินบี แมกนีเซียม กรดไบโอติน นอกจากนี้ในคุณแม่บางท่านที่มีอาการแพ้ท้องอาเจียนด้วยก็อาจรับสารอาหารไม่เพียงพอและเกิดอาการผมขาดหลุดร่วงได้เช่นกัน 3. มีโรคประจำตัว ป่วย – สาเหตุคุณแม่ตั้งครรภ์ผมร่วง อีกสาเหตุที่คุณแม่ตั้งครรภ็เกิดอาการผมขาดหลุดร่วงและน่าเป็นห่วงมากที่สุดคือคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่นโรคเกี่ยวกับเลือด โลหิตจาง โรคเบาหวานและอื่น ๆ […]

Read More
คุณแม่มือใหม่ พัฒนาการเด็ก สุขภาพ เรื่องน่ารู้

เสริมพัฒนาการลูกตั้งแต่ในครรภ์ ด้านประสาทสัมผัส เพื่อการตื่นตัวตั้งแต่อยู่ในท้อง

คุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลายรู้หรือไม่ว่าลูกในท้องของคุณสามารถมีพัฒนาการทางด้านประสาทสัมผัสจากการช่วยเหลือจากตัวคุณแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์เลยทีเดียว ทั้งนี้เราได้นำข้อมูลดี ๆ เพื่อให้คุณแม่สามารถ เสริมพัฒนาการลูกตั้งแต่ในครรภ์ ด้านประสาทสัมผัส เพื่อการตื่นตัวตั้งแต่อยู่ในท้อง แนะนำการเสริมพัฒนาการลูกตั้งแต่ในครรภ์ 1. เสียง – เสริมพัฒนาการลูกตั้งแต่ในครรภ์ ด้านประสาทสัมผัส เพื่อการตื่นตัวตั้งแต่อยู่ในท้อง ทางด้านการฟัง เมื่อคุณแม่มีอายุครรภ์ได้ 16 สัปดาห์ลูกสามารถได้ยินเสียงของคุณแม่และสิ่งรอบตัวได้แล้ว ดังนั้นคุณแม่สามารถพูดคุยกับลูก และฝึกให้ลูกฟังเพลงเพื่อให้ลูกอารมณ์ดีและถือเป็นการเรียนรู้เรื่องประสาททางด้านการฟังของลูกน้อยที่ดีอีกทางเลยล่ะ   2. การมองเห็น – เสริมพัฒนาการลูกตั้งแต่ในครรภ์ ด้านประสาทสัมผัส เพื่อการตื่นตัวตั้งแต่อยู่ในท้อง ทางด้านการมองเห็น หลายคนอาจจะคิดว่าเด็กอยู่ในท้องจะสามารถมองเห็นสิ่งรอบตัวได้อย่างไร ทว่าผนังในท้องไม่ได้หนาขนาดที่เด็กจะมองออกมาไม่ได้ ดังนั้นเมื่อเด็กในครรภ์มีอายุ 16 สัปดาห์จะเริ่มไวต่อแสงต่าง ๆ มากขึ้น ช่วงนี้คุณแม่สามารถออกไปเดินเล่นท่ามกลางแสงแดดเพื่อให้ลูกน้อยได้สัมผัสกับแสงแดดตั้งแต่ในครรภ์เลย 3. สัมผัส – เสริมพัฒนาการลูกตั้งแต่ในครรภ์ ด้านประสาทสัมผัส เพื่อการตื่นตัวตั้งแต่อยู่ในท้อง เด็กในครรภ์สามารถรับรู้ถึงการสัมผัสต่าง ๆ ตั้งแต่ 19 สัปดาห์ ทว่ายังไม่มีผลการวิจัยว่าการสัมผัสท้องจะสามารถพัฒนาประสาทการสัมผัสของเด็กในครรภ์ได้ ทารกจะพัฒนาด้านการสัมผัสได้ดีที่สุดหลังจากคลอดจากการถูกอุ้มถูกสัมผัสตัวนั่นเอง อย่างไรก็ตามการสัมผัสท้องและพูดคุยกับเด็กระหว่างที่อยู่ในท้องก็เป็นการเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่ลูกได้เป็นอย่างดี คุณแม่ควรทำอย่างสม่ำเสมอจะมีผลดีต่อเราและลูกน้อย 4. กลิ่น – เสริมพัฒนาการลูกตั้งแต่ในครรภ์ […]

Read More
เรื่องน่ารู้

แม่ตั้งครรภ์-รับมือโควิค19-ในช่วงโรคระบาดโควิค19-Ufoid

แม่ตั้งครรภ์รับมือโควิค19 เนื่องจากเชื้อโควิค19ตัวนี้ยังเป็นเชื้อที่ยังไม่รู้เชื้อทั้งหมด และยังไม่พบว่าคุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะเสี่ยงติดเชื้อโควิค19มากกว่ากลุ่มอื่นๆ และก็ถ้าเกิดติดไปแล้วก็ไม่ได้มีอาการรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆยกเว้นแม่ตั้งครรภ์ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคปอด และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น สรุปแล้วแม่ตั้งครรภ์มีโอกาสติดใกล้เคียงกับคนปกติทั่วไป แม่ตั้งครรภ์เมื่อป่วยเป็นโรคโควิค19ลูกในครรภ์จะมีโอกาสติดไหม? แม่ตั้งครรภ์ป่วยเป็นโรคโควิค19ลูกในครรภ์จะไม่สามารถติดได้แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ร่างกายของคุณแม่ถ้าร่างกายเกิดอ่อนแอก็อาจมีความเสี่ยงทำให้ลูกติดเชื้อได้ เพราะยังไม่มีข้อมูลว่ามีการถ่ายทอดเชื้อไปยังลูกในครรภ์ได้และยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าทารกจะสามารถรับเชื้อตั้งแต่อยู่กับแม่ในท้องได้หรือไม่ โดยยังไม่มีการตรวจพบเชื้อในน้ำคร่ำ ในนมแม่ ในถุงรก และในสายสะดือ หรือบางครั้งอาจจะมาติดเชื้อข้างนอกก็ได้ ถ้าแม่ตังครรภ์มีการติดเชื้อโควิค-19 ก็จะต้องผ่าคลอดหรือคลอดตามปกติ ในกรณีบางโรงพยาบาลอาจจะอนุญาติให้คุณพ่อมาคอยเฝ้าคุณแม่ พอคลอดออกมาแล้วถ้าคุณแม่ไม่ได้มีอาการรุนแรงอะไรก็สามารถเลี้ยงลูกได้ตามปกติแต่ไม่ให้เอาไปรวมกับเด็กคนอื่น และเชื้อไม่ได้ออกมาทางน้ำนมได้ ถ้าลูกได้กินนมแม่ก็จะมีภูมิคุ้มกันที่ดีไปด้วยและปลอดภัยจากโควิค-19 เพราะเชื้อไวรัสโควิค-19นี้แสดงอาการในเด็กค่อนข้างน้อยมากและถ้ามีอาการก็จะรุนแรงน้อย และมีการเสียชีวิตที่น้อยมาก ถ้าไม่จำเป็นแม่ตั้งครรภ์ก็ควรอยู่บ้านเพื่อปลอดภัยกับตัวเองและลูกในครรภ์ ไม่ควรออกนอกบ้านไปติดเชื้อ ถ้าจำเป็นต้องออกก็ควรใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เมื่อเข้าบ้านก็ควรรีบอาบน้ำทันที และควรมีเจลแอลกอฮอร์คอยฆ่าเชื้อ เพื่อให้ห่างไกลจากสิ่งสกปรกและห่างไกลจากเชื้อโรคได้ด้วย #ufoid# แม่ตั้งครรภ์#โควิค19

Read More
Back To Top